เมื่อวันที่ 20 ก.ย. พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.
เปิดเผยว่า หลังองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้โรคหวัด 2009 กับโรคหวัดธรรมดาตามฤดูกาลเป็นโรคชนิดเดียวกัน ทำให้ประชาชนเกิดการละเลยถึงวิธีการป้องกันโรคดังกล่าว ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องใน กทม.จึงยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กทม.จึงเตรียมที่จะนำแผนและมาตรการรณรงค์ที่เคยใช้ในช่วงที่โรคหวัด 2009 ระบาดในช่วงแรกมาใช้อีกครั้ง ดูแล 5 พื้นที่เสี่ยงสูงด้วยการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ชุมชน สถานศึกษาและโรงเรียน สถานประกอบการ แหล่งชุมชน อาทิ วัด สถานีรถไฟฟ้า
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศธ. กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของศธ.
ขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และสถานการณ์ของโรคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตนจึงสั่งการให้ทุกองค์กรหลักที่มีสถานศึกษาทำหนังสือเวียนย้ำไปยังสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยให้มีมาตรการในการเฝ้าระวังในสถานศึกษา ดังนี้ 1.ดำเนินการจัดระบบคัดกรอง 2.โรงเรียนต้องชี้แจงกับผู้ปกครอง และนักเรียนให้เข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องให้นักเรียนที่ป่วยหยุดเรียน 3.ต้องมีการจัดห้องดูแลนักเรียนที่ป่วยอย่างถูกต้อง และ 4.เตรียมพร้อมเรื่องหน้ากากอนามัย ตลอดถึงวิธีกำจัดหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วให้ถูกต้อง
"หลังจากนี้ทุกสถานศึกษาจะต้องรายงานข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตลอดจนจัดทำแบบสรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ฯ ในสถานศึกษา โดยต้องแยกเป็นระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา ซึ่งจะต้องจัดส่งมายังองค์กรหลักในทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ ขณะเดียวกัน ศธ.ก็จะกำชับเรื่องนี้ เพื่อดำเนินการกำหนดมาตรการอย่างเข้มข้นต่อไป" นายชินวรณ์ กล่าว