พบ ดอกประหลาด โผล่ซอกเขาสุดสวย

โดยพระมหาฉลอง จิรฌาโน เจ้าอาวาสวัดตลิ่งชัน หมู่ที่ 1 ต.ตลิ่งชัน อ.บ้าน ด่านลานหอย จ.สุโขทัย เดินทางมาพบผู้สื่อข่าวที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พร้อมกับนำภาพถ่ายดอกไม้แปลกประหลาดมาให้ดูและเผยว่า

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ได้ไปเดินธุดงค์ฝึกสมาธิที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติเด่นวังหลวง ระหว่างทางพบกับดอกไม้แปลกประหลาดผุดขึ้นมาจากดินบริเวณซอกเขา ซึ่งมีลักษณะเป็นที่ชุ่มชื้น จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ และขุดขึ้นมาดูพบว่ามีลักษณะเป็นหัวเกิดมาจากเหง้า ไม่มีราก เหง้าที่พบมีสีเหลืองทอง ขนาดโตเท่ากำมือคน ลักษณะภายนอกเป็นตะปุ่มตะปํ่า บางหัวมีสีเหลืองปนแดง และบางต้นสีชมพู

ลักษณะที่แปลกประหลาดของดอกไม้ชนิดนี้ คือมีลูกซึ่งมีลักษณะคล้ายกับผลไม้หลายชนิด เช่น ลิ้นจี่ ขนุนอ่อน และชมพู่ อยู่รวมกัน มีสีหลากหลายทั้งเหลืองทอง แดง และสีชมพู มีดอกคล้ายผลขนุนที่โตเต็มที่ แต่มีขนาดเล็ก บางดอกมีหน่อเป็นช่อหลายชั้นยื่นชูออกมาคล้ายกลีบดอกบัวหุ้มไว้ ดอกที่โตเต็มที่จะมีช่อดอกเป็นสีขาวปนแดงและอมชมพู

นอกจากนี้ยังพบว่าดอกไม้ประหลาดขึ้นอยู่กอเดียว

มีอยู่ประมาณ 50 กว่าดอก เมื่อทดลองดมดูพบว่าไม่มีกลิ่น แต่ยังไม่กล้าทดลองกิน เพราะเกรงว่าอาจเป็นอันตราย เนื่องจากดอกไม้ดังกล่าวนี้ไม่มีร่องรอยถูกแมลงหรือสัตว์อื่นๆกัดกินเป็นอาหาร

ในบริเวณดังกล่าวยังพบ

รอยเท้าของเม่นที่มาขุดดินเพื่อหากินแมลงอยู่ใกล้ๆเท่านั้น จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นดอกไม้ที่มีพิษอันตรายหรือไม่ แต่ก็ได้เก็บออกมาเพื่อนำมาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ว่าเป็นดอกอะไร

พระมหาฉลองเปิดเผยอีกว่า ได้นำดอกไม้แปลกนี้มาเก็บไว้ส่วนหนึ่ง ปรากฏว่าได้เกิดเหี่ยวเฉา อีกส่วนหนึ่งได้ใส่ไว้ในช่องฟรีซตู้เย็น พบว่ายังไม่เหี่ยวเฉาแต่ อย่างใด พร้อมกันนี้ได้สอบถามนายบุญยันต์ มูลศรีวัง อายุ 30 ปี อาชีพพรานป่าที่เข้าไปหาของป่ามาขาย ได้รับคำตอบว่าไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้มาก่อน แม้ว่าจะเข้ามาหาของป่าเป็นประจำ เมื่อลองนำไปให้คนเฒ่า คนแก่อายุกว่า 70 ปี ภายในหมู่บ้านตลิ่งชันดู ไม่มีใคร เคยเห็นหรือรู้จักดอกไม้ชนิดนี้ ชาวบ้านที่ทราบเรื่องต่างแห่กันมาดูพร้อมกับตั้งชื่อให้ว่า ดอกไม้พระพุทธเจ้า

มีชาวบ้านมาขอดอกไม้แปลกนี้เพื่อจะนำไปบูชา เกรงว่าหากมีชาวบ้านหรือพ่อค้าไปพบอาจจะลักลอบขุดไปขาย

จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้หรือผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องพันธุ์ไม้ไปตรวจสอบเพื่อการอนุรักษ์เป็นมรดกของชาติต่อไป เพราะอาจจะเป็นพืชโบราณหรือพืชสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้

โดยนำภาพถ่ายไปให้ผู้เชี่ยวชาญป่าไม้ไปทำการตรวจสอบ ได้รับคำตอบว่าไม่เคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้มาก่อนเช่นเดียวกัน แต่หากดูที่รูปถ่ายอย่างเดียวคงจะไม่สามารถพิสูจน์ให้ แน่ชัด คงจะต้องไปดูของจริงและตัดชิ้นส่วนไปตรวจสอบ ด้วยการส่องกล้องดู

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ