ฮานอยทุ่มจัดเอเปก ชาวบ้านเซ็งความเอิกเกริก

แม้เวียดนาม เจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ที่กรุงฮานอย จะเตรียมการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอย่างคึกคักใหญ่โตเพราะถือว่าเป็นการประชุมนานาชาติครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมาและเป็นหน้าตาของประเทศ แต่ชาวเวียดนามหลายคนกลับส่ายหน้าไปกับความตื่นเต้นวุ่นวายเกินเหตุดังกล่าว

สำนักข่าวซินหัวของจีนและเอเอฟพีของฝรั่งเศสรายงานว่า คนงานหลายพันคนต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อทำให้กรุงฮานอยสวยงาม คอยท่าแขกผู้มาเยือนที่คาดว่ามากถึง 10,000 คน โดยเฉพาะผู้นำชาติมหาอำนาจโลกอย่าง จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ของสหรัฐ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และหู จิ่นเทา ของจีน

ในโอกาสเปิดตัวต่อโลก ตอบรับข่าวดีเข้าเป็นสมาชิกชาติที่ 150 ขององค์การการค้าโลก (WTO) รวมถึงโน้มน้าวให้โลกเห็นศักยภาพที่จะเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในอนาคต เวียดนามทุ่มสุดตัว เริ่มจากสร้างศูนย์ประชุมแห่งชาติขนาดยักษ์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนรมิตทั้งเนินเขา ทะเลสาบ หมดงบไปกว่าหมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโซนของนักข่าว 4,000 ตารางเมตร ห้องประชุมจุได้ 3,800 ที่นั่งและลานจอดรถ 4 แห่งรองรับได้เกือบ 1,000 คัน

เรื่องเสื้อผ้าที่เจ้าภาพจะมอบให้ผู้มาเยือนสวมใส่ มินห์ ฮานห์ นักออกแบบแฟชั่นระดับแถวหน้าของเวียดนามเป็นแม่งาน ซึ่งแน่นอนว่า ต้องเป็นลายดอกบัวเพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ส่วนเรื่องของที่ระลึก ช่างฝีมือสลักภาพเหมือนผู้นำเอเปก 19 คนด้วยพลอย น้ำหนักรวม 1,520 กิโลกรัม

แต่สำหรับเหงียน เทียนลอย คนขับจักรยานยนต์รับจ้าง วัย 40 ปี เอเปกทำให้เขาปวดหัวเพราะขบวนรถผู้นำชาติต่างๆ ทำให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้วแย่ลงไปอีก

"ผมไม่สนใจเรื่องการเมืองหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเอเปกสำคัญกับเวียดนามยังไง แต่การปิดถนนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่ว แล้วเราจะทำอะไรได้นอกจากทำตามคำสั่ง"

เวียดนามเตรียมกำลังตำรวจไว้ทั้งสิ้น 15,000 นาย กระทรวงความปลอดภัยสาธารณะระดมมาอีก 800 นาย เสริมด้วยหน่วยพิเศษอีก 220 หน่วย

ทางการติดตั้งลำโพงกระจายเสียงกฎข้อบังคับต่างๆ ในย่านชุมชนทั่วเมือง คำสั่งที่ประกาศในลำดับต้นๆ ก็คือชาวบ้านที่อยู่ตามถนนสายหลักต้องอยู่ให้ห่างจากหน้าต่างและระเบียงเข้าไว้เวลาขบวนรถผู้นำคันสีดำที่กระจกมีม่านบังตาเคลื่อนผ่านมา และห้ามรถเมล์และรถบรรทุกวิ่งในช่วงกลางวัน

สำหรับรถที่เวียดนามจัดไว้ให้ผู้นำใช้ เป็นเบนซ์อี-คลาส 115 คัน รถเก๋งและรถโค้ชสำหรับคณะผู้ติดตามอีก 1,300 คัน หมดเงินไป 496 ล้านบาท

นอกเหนือจากธงสีสดสวยที่ตกแต่งทั่วเมือง ยังมีป้าย "ต้อนรับสู่การประชุมเอเปก เวียดนาม 2006" เคียงข้างป้าย "พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจงเจริญ"

เสียงนุ่มๆ ของโฆษกเสียงตามสาย ประกาศกับชาวฮานอยว่า นี่คือการประชุมครั้งสำคัญของเวียดนามเพราะผลสืบเนื่องที่ทรงพลังของการประชุมเอเปกนั้นสำคัญมากทั้งในด้านการเมืองและสังคม พร้อมทั้งเตือนให้ชาวบ้านทำตัวดีที่สุดเมื่อสายตาชาวโลกจ้องมองมาที่ฮานอย

"ประชาชนทุกคนจะต้องไม่ปีนป่ายเสาไฟฟ้า เชื่อมสายเคเบิล ปล่อยบอลลูนหรือว่าว ที่อาจจะไปพันสายไฟได้ ต้องใช้ไฟฟ้าให้น้อยที่สุดในช่วงชั่วโมงสำคัญ"

ตรัน ทิลัน เจ้าของร้านอาหารอายุ 49 ปี กล่าวว่า โฆษกพูดเรื่องงานเอเปกทุกเช้า แต่ตนไม่เข้าใจสักอย่าง "ผมไม่รู้ว่ามีเอเปกไว้ทำไม แต่ก็เถอะ มันเป็นงานช้างและบุชก็จะมาร่วมด้วย"

เช่นเดียวกับ ตรัน ธิฮัว พ่อค้าข้าวปิ้ง อายุ 52 ปี ที่กล่าวว่า "ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเอเปกมันเป็นยังไง แต่ตำรวจไม่ยอมให้ผมขายของที่สะพานที่นั่งขายอยู่ประจำ ผมหวังว่าไอ้การประชุมนี้มันจะจบไปเร็วๆ จะได้กลับไปขายของได้เหมือนเดิม"

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด