เมื่อ 11 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า นายบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ
กล่าวในพิธีรำลึกครบรอบ 9 ปีเหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐ 11 ก.ย. หรือ 9/11 ที่หน้าอาคารเพนตากอน กรุงวอชิงตัน ว่า ชาวอเมริกันไม่มีทางจะทำสงครามกับอิสลาม เพราะสิ่งที่โจมตีสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ไม่ใช่ศาสนา แต่เป็นกลุ่มอัลไคด้า ดังนั้น ขอให้ชาวอเมริกันอย่าได้หลงติดกับความเกลียดชังและอคติ
ด้านรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก เป็นประธานในงานรำลึกเหตุการณ์นี้ที่นครนิวยอร์ก ที่มีการอ่านรายชื่อเหยื่อที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ทั้งหมด 2,752 ราย จากการที่ผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินพุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดถล่มทั้งสองหลัง
บรรยากาศงานรำลึกในปีนี้ตึงเครียดกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ยั่วยุจากกลุ่มลัทธิโดฟ เวิลด์ เอาต์รีช ในรัฐฟลอริดา
ที่เดิมประกาศจะเผาคัมภีร์กุรอานเพื่อประท้วงแผนการสร้างมัสยิด เป็นส่วนหนึ่งในอาคารชุดใหม่ที่จะขึ้นแทนตึกเวิลด์เทรด จนกระทั่งถึงวันที่ 11 ก.ย. บาทหลวง เทอร์รี่ โจนส์ หัวหน้ากลุ่มดังกล่าว จึงยอมประกาศว่าจะไม่เผาคัมภีร์กุรอาน ไม่ว่าวันใดก็ตาม
วันเดียกัน รัฐบาลอิหร่านยกเลิกการปล่อยตัวน.ส.ซาราห์ ชเราด์ นักปีนเขาชาวอเมริกัน
ผู้ต้องสงสัยสืบราชการลับและเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ถูกจับพร้อมเพื่อนชายชาวอเมริกันอีก 2 ราย โดยให้เหตุผลว่า ขั้นตอนทางกฎหมายยังไม่เรียบร้อย ทั้งที่เดิมมีข่าวว่า จะปล่อยหญิงสาวในวาระ 9/11นายอับบาส จาฟารี โดลาตาบาดี อัยการกรุงเตหะราน กล่าวว่า คณะผู้พิพากษาไม่ได้พิจารณาคดีไปตามข่าวที่ตีพิมพ์ การตัดสินขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ในเมื่อกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น การปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวอเมริกันทั้งสามก็เลิกไป จะไม่มีใครคนใดที่ได้รับการปล่อยตัว