กระทรวงสาธารณสุข เผยปี '52 คนไทยฆ่าตัวตาย รวมกว่า 3พันราย โดยมีสาเหตุสำคัญจาก อาการเครียดและซึมเศร้า แนะใช้ครอบครัว ฝึกทักษะคนในครอบครัว ในการแก้ปัญหาชีวิต และปัญหาส่วนตัว...
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กันยายนของทุกปี
ในปีนี้ องค์การอนามัยโลกได้กำหนดหัวข้อการรณรงค์ว่า"หลากหน้า หลายพื้นที่ รวมพลังป้องกันการฆ่าตัวตายโลก"(Many Faces, Many Places : Suicide Preventi on Across the World)มีความหมายว่า ทั้งโลกจะต้องรวมพลังกัน เพื่อไม่ให้เกิดการฆ่าตัวตายขึ้น
ขณะนี้อัตราการฆ่าตัวตายของประชากรทั้งโลกอยู่ที่ 16 คนต่อประชากรแสนคนสำหรับประเทศไทยข้อมูลในปี 2552
มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 3,634 คน อัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 5.72 ต่อประชากร 100,000 คน สูงที่สุดในเดือนมิถุนายน จังหวัดที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูง 5 จังหวัดแรก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน เชียงราย เชียงใหม่ และระยอง โดยผู้หญิงมีความพยายามฆ่าตัวตายสูงกว่าผู้ชาย 3 เท่า แต่เมื่อมีความพยายามฆ่าตัวตายแล้ว ผู้ชายจะทำสำเร็จสูงกว่าผู้หญิง 3.5 เท่า
สำหรับสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่เกิดจากความเครียด รองลงมาได้แก่ เป็นโรคซึมเศร้า ติดยาเสพติด และการเจ็บป่วยทางกาย
อย่างไรก็ตามการฆ่าตัวตายสามารถป้องกันได้ และโรคซึมเศร้าซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นกัน สิ่งที่สำคัญคือวิธีการป้องกันและวิธีการดูแลรักษาหากเป็นโรคซึมเศร้า โดยวิธีการป้องกันการฆ่าตัวตายเช่น พยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ สร้างความมั่นคงให้กับจิตใจ ฝึกทักษะในการแก้ปัญหาชีวิต ปัญหาส่วนตัว ความขัดแย้งต่างๆซึ่งครอบครัวจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดการฆ่าตัวตายได้
ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้กำหนดเกณฑ์ความเสี่ยงในการฆ่าตัวตาย
โดยประเทศที่เสี่ยงสูงคือมีอัตราฆ่าตัวตายเฉลี่ยมากกว่า 13 คนต่อประชากรแสนคน เสี่ยงปานกลางมีอัตราเฉลี่ย 6.5-13 คนต่อประชากรแสนคน และประเทศที่มีความเสี่ยงน้อยมีอัตราเฉลี่ยน้อยกว่า 6 คนต่อประชากรแสนคน ซึ่งประเทศไทยในปี 2552 มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 3,634 คน เฉลี่ย 5.72 คนต่อแสนประชากร ถือว่าอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงการฆ่าตัวตายน้อยติดต่อกันมาตลอด 3 ปี
เครียดซึมเศร้า ปมฆ่าตัวตาย ไทยสังเวย3พัน
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!