ร้องการรถไฟฯส่อทุจริตโครงการเช่าสิทธิขายอาหาร-เครื่องดื่มบนตู้เสบียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้มีทนายความรายหนึ่งได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) 

รวมทั้งยังส่งไปยังหน่วยงานตรวจสอบภาครัฐ ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)  สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ(ป.ป.ท.)และอีกหลายหน่วยงาน เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการเช่าสิทธิขายอาหารเครื่องดื่ม ตู้เสบียงบนขบวนรถเร็วและขบวนรถด่วนของการรถไฟฯที่น่าเชื่อว่าอาจมีการทุจริต

หนังสือดังกล่าวระบุว่า จากการที่การรถไฟฯได้ออกประกาศเชิญชวนให้เอกชนเสนอโครงการเช่าสิทธิขายอาคารเครื่องดื่ม ตู้เสบียงบนขบวนรถเร็วและขบวนรถด่วน

โดยผู้ว่าการรถไฟได้แต่งตั้งคณะกรรมการจากพนักงานการรถไฟขึ้นมาเป็นผู้พิจารณาร่วมกันสี่คน การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบางคนเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ส่อไปในทางทุจริต มีการช่วยเหลือผู้เข้าประมูลบางบริษัทให้ได้ให้รับประโยชน์ ปัจจุบันนี้แม้ว่ายังไม่มีการประกาศผลผู้ได้รับการคัดเลือก แต่เป็นที่รับทราบกันมานานแล้วว่าบริษัทใดจะเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูล ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่อไปในทางทุจริต

ทั้งนี้หลังจากมีการประกาศเชิญชวนแล้ว มีนิติบุคคลเข้าซื้อซองประกวดราคา 5 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัทอินทริริตี้ จำหัด 2. บริษัทกุลสวัสดิ์ 3. บริษัทนายรายณ์ จำกัด บริษัท วีซี แทรเวิล จำกัด 5. บริษัทพรปัญญา จำกัด ภายหลังที่ทั้ง 5 บริษัทได้เข้าซื้อซองประกวดราคาแล้ว ได้ทราบว่าโครงการที่ประกาศเชิญชวน ทางผู้บริหารการรถไฟได้มีการจัดแบ่งให้กับนิติบุคคลอื่นๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว (หนังสือระบุรายชื่อบริษัทที่คาดว่าจะได้รับการคัดเลือก รวมทั้งผู้สั่งการที่เป็นผู้บริหารของการรถไฟฯ)
 

"ผู้บริหารที่มีอำนาจสั่งการได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นเงินหลายล้านบาท และมีการจ่ายเงินบางส่วนไปแล้ว ส่วนผลประโยชน์ส่วนที่เหลือจะจ่ายกันในวันลงนามสัญญาระหว่างการรถไฟกับผู้ชนะการประมูล ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทุจริตประพฤติมิชอบ และในเร็ววันนี้ จะมีการประกาศรายชื่อบริษัทดังกล่าวให้เป็นผู้ชนะการประมูล ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทำให้การรถไฟฯได้รับความเสียหาย" หนังสือดังกล่าวระบุ

 
ดังนั้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินการจึงขอให้พิจารณาสั่งการคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกที่ผู้ว่าการแต่งตั้งมาทำงานด้วยความอิสระโปร่งใสไม่อยู่ภายใต้การบังคับและบงการของใคร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย และสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษด้วย