เล็งทำถนนตัดใหม่ไม่มีปัญหาแย่งช่องทางรถยนต์ มั่วนิ่มให้ “เมโทรบัส” วิ่งแทนในเส้นทางที่โฆษณาไว้
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า หลังจาก กทม.เปิดให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษชิดเกาะกลาง หรือ บีอาร์ที สายแรกสาทร-ราชพฤกษ์ ระยะทาง 16 กม. ที่พบว่ายังมีปัญหาหลายจุด เนื่องจากต้องมีการใช้ช่องทางร่วมกับช่องทางรถยนต์ส่วนตัวบางช่วงของเส้นทาง ทำให้ในภาพรวมโครงการยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และอยู่ระหว่างประเมินผลโครงการไปอีก 4 เดือน หลังเริ่มทดลองเก็บค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. และเก็บค่าโดยสารเต็มระบบ 12-20 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2554 เพื่อเก็บข้อมูลใช้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และปรับรูปแบบโครงการ รวมทั้งได้ทบทวนโครงการที่เหลือ โดยเฉพาะเส้นทางแจ้งวัฒนะถึงหมอชิตนั้น สรุปว่าจะไม่ทำแล้ว รวมทั้งเส้นทางอื่น ๆ เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุมัติเส้นทาง ประกอบกับเส้นทางแรกก็ยังอยู่ระหว่างประเมินผล
อย่างไรก็ตาม เส้นทางดังกล่าว ผู้ประกอบการรถเมโทรบัส ซึ่งได้รับสัมปทานเส้นทางจากกรมการขนส่งทางบกหลายเส้นทาง
และยังมีเส้นทางที่ยังไม่ได้จัดรถวิ่งใน 18 เส้นทาง ในจำนวนนี้มีเส้นทางจากหมอชิต-แจ้งวัฒนะด้วย เมื่อเปิดให้บริการก็น่าจะเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ โดย กทม.จะเสนอขอให้ต่อเส้นทาง จากหมอชิตต่อไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนปลายด้านแจ้งวัฒนะก็ขยายไปถึงปากเกร็ด ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 18 ก.ย.นี้ โดย กทม.จะสนับสนุนเรื่องการปรับปรุงป้ายรถประจำทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ บริเวณหมอชิต เป็นต้น
นายธีระชน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กทม.จะพิจารณาก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารเพิ่มเติมบริเวณอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล หรือแหล่งชุมนุมคนจำนวนมาก
ส่วนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี จะหารือกันอีกครั้งในการสร้างอาคารที่พัก แต่ในเบื้องต้นจะดึงภาคเอกชนมาสร้าง และให้สิทธิในการโฆษณา ซึ่ง กทม.จะได้รายได้จากภาษีป้ายอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ในอนาคตก็จะพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการบีอาร์ทีส่วนที่เหลือที่เคยศึกษาไว้ อีก 3 เส้นทาง ได้แก่ สายสาทร-สุขสวัสดิ์ สายดอนเมือง-มีนบุรี-สุวรรณภูมิ และสายมีนบุรี-ศรีนครินทร์-สำโรง มาเป็นเส้นทางรถเมโทรบัสทั้งหมดด้วย ส่วนรถบีอาร์ทีจะศึกษาทำใหม่ในเส้นทางถนนตัดใหม่ที่ไม่ต้องแย่งช่องทางรถยนต์ส่วนตัว.