´สุรยุทธ์´ลงใต้ดับไฟ ฝากเยาวชนช่วยแก้

สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบ ในขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เสนอให้ ครม.พิจารณาปัญหาภาคใต้เป็นวาระเร่งด่วน โดยผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลวันที่ 16 พ.ย.ว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 21 พ.ย.นี้ สำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จะเสนอให้ ครม.พิจารณาปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องแก้ไขคือ

เรื่องการเสริมสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดทำโดยคณะที่ปรึกษาฝ่ายการเสริมสร้างสมานฉันท์และความเป็นธรรมในสังคมของ คมช. มีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาดังนี้คือ 1. การขจัดความไม่เป็นธรรมในสังคม ต้องเร่งทำความจริงในคดีการหายตัวไปของนายสมชาย นีละไพจิตร โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้จะต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏโดยเร็วที่สุดในคดีการวิสามัญฆาตกรรมต่างๆ เช่น สะบ้าย้อย และกรือเซะ

2. ลดปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ โดยให้เปลี่ยนกำลังทหารมาใช้ทหารจากคนในพื้นที่ และอาจใช้แนวทางสันติเสนาตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ส่งเสริมให้ใช้ภาษามลายูถิ่นปัตตานีเป็นภาษาทำงานอีกภาษาหนึ่ง และมีสัดส่วนผู้ปฏิบัติงานที่เหมาะสมในหน่วยงานของรัฐที่สามารถสื่อสารด้วยภาษานี้ได้ 3. สร้างหลักประกันเพื่อให้เกิดความยุติธรรมและความเป็นธรรม โดยถือหลักยุติธรรมอย่างเคร่งครัดทั้งด้านกฎหมายและความยุติธรรมทางสังคม 4. ให้ใช้หลักการดำเนินการบริหารพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เน้นการค้นหาความจริง งดใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ สร้างความเข้าใจเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและส่งเสริมให้ภาคประชาสังคมมีบทบาทในการมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาต่างๆ

นายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงการแก้ไขซิมการ์ดที่คนร้ายมักจะนำไปใช้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ถ้าจะไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจุดระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือเราก็ต้องปิดโทรศัพท์ แต่จะสร้างความเดือดร้อนกับประชาชนทั่วไป วิธีที่ดีที่สุดคือต้องปราม ขณะนี้กระทรวงไอซีทีกำลังสำรวจข้อมูลในเรื่องระยะเวลาการจุดระเบิด โดยประสานกับบริษัทที่เป็นผู้ดำเนินการว่าจะมีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้รู้ว่าการส่งสัญญาณจุดชนวนระเบิดมาจากที่ใด อาจจะจับกุมผู้กระทำผิดได้ ส่วนการจดทะเบียนซิมการ์ดนั้น เป็นเพียงทำให้รู้ว่าใครซื้อซิมการ์ดนั้น แต่ไม่สามารถป้องกันการใช้ซิมการ์ดได้ ซิมการ์ดไม่ถือว่าเป็นปัญหาเพราะยังมีวิธีอื่นที่สามารดจุดระเบิดได้ เช่น รีโมต ไฟหน้ารถ แตรรถยนต์ อีกวิธีหนึ่งที่จะแก้ไขได้คือการติดตั้งทีวีวงจรปิดในสถานที่สำคัญต่างๆ แต่การจัดซื้อจัด จ้างต้องกระทำด้วยความโปร่งใส

ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 (บน.6) พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ภายหลังกลับจากเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียว่า ได้มีการหารือถึงความร่วมมือทางด้านการทหารระหว่าง 2 ประเทศ และพูดถึงสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง ผบ.ทหารสูงสุดของมาเลเซียยินดีจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในฐานะที่ประเทศมาเลเซียเป็นประธานของกลุ่มโอไอซี การพูดคุยช่วยเหลือกันก็มีการทำมาก่อนหน้านี้แล้ว มาเลเซียมีสปิริตในการช่วยเหลือเราเต็มที่อยู่แล้ว เราก็เช่นกันมีอะไรก็ช่วยเหลือเขาเต็มที่ ซึ่งรูปแบบการช่วยเหลือของมาเลเซียในเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดน เขาก็จะส่งทหารไปอยู่ตามแนวชายแดนเพื่อตรวจตราสิ่งผิดปกติ ซึ่งมันสามารถช่วยเราได้มาก แม้จะไม่ถึง 100% ก็ตาม อีกทั้งระหว่าง 2 ประเทศก็มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารกันเป็นประจำ

วันเดียวกัน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.นินนาท เบี้ยวไข่มุข นายทหารคนสนิทนายกรัฐมนตรี เดินทางโดยเครื่องบินแอร์บัสของกองทัพอากาศ ไปลงที่สนามบินบ้านทอน จ.นราธิวาส จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปประกอบภารกิจในพื้นที่ มีกำลังทหาร ตำรวจคุมกันแน่นหนา โดยจุดแรกไปเยี่ยมโรงเรียนอัตตัรกียะห์อิสลามียะห์ อ.เมืองนราธิวาส ของนายฮูมาร์ ตอยิบ เป็นโรงเรียนสอนศาสนา โดยมีครูและนักเรียนให้การต้อนรับจำนวน 504 คน พร้อมเข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหา โดยนายกรัฐมนตรีย้ำกับคณะครูและนักเรียนขอให้นำความรู้มาร่วมกันพัฒนาเพื่อให้เกิดสันติสุขใน 3 จังหวัดภาคใต้ เนื่องจาก ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความบาดหมางต่อกัน ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้บริหารโรงเรียนยังได้ของบประมาณสนับสนุนการเรียนการสอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าจะกลับไปปรึกษากับ รมว.คลังอีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้วได้ก่อหนี้ไว้ร่วม 8 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ตัวแทนสมาคมฟื้นฟูมรดกอิสลามประเทศคูเวต ยังได้ยื่นหนังสือชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี ถึงการสนับสนุนเงินจำนวน 700 ล้านบาท ช่วยเหลือคนยากจนและเด็กกำพร้าตั้งแต่ปี 2543 ถึงปัจจุบันว่า เป็นการช่วยเหลือทางด้านการกุศล ไม่ใช่สนับสนุนการก่อการร้าย

จากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์เดินทางต่อไปที่โรงเรียนนราสิขาลัย ที่อยู่ห่างกันประมาณ 5 กม. มีครูและนักเรียนมารอให้การต้อนรับจำนวน 2,434 คน ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวกับนักเรียนว่า ขอให้เยาวชนร่วมกันรับผิดชอบปัญหาบ้านเมือง และขอฝากให้แก้ปัญหาต่างๆด้วยสันติวิธี หลังจากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์และคณะเดินทางต่อไปเยี่ยมชาวบ้านที่บ้านลำภู อ.เมืองนราธิวาส ประมาณ 500 คน พร้อมมอบเงินเยียวยาให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบจำนวน 15 ราย รวมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค

ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปที่วัดนิโรธสังฆาราม อ.เมืองยะลา ให้กำลังใจชาวบ้านที่หนีภัยโจรใต้มาพักอาศัยอยู่กว่า 200 คน อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพบปะชาวบ้าน มีผู้นำใบปลิวที่คนร้ายเขียนโจมตี พล.อ.สุรยุทธ์ในทำนองไม่เห็นด้วยกันแนวทางสมานฉันท์มามอบให้แก่นายกรัฐมนตรีด้วย โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าแนวทางสันติวิธีที่นำมาใช้ ทำให้กลุ่มคนร้ายไม่พอใจ เพราะเขาต้องการความรุนแรงและต้องการให้เกิดความแตกแยกในสังคม เพื่อจะใช้ชาวบ้านเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ยังรับปากจะให้การช่วยเหลือครอบครัวของ ว่าที่ ร.ต.(หญิง) กุลลธิดา ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต โดยรัฐบาลจะส่งเสียลูกชายให้เรียน หนังสือจนจบในชั้นสูง

ที่ รพ.ศูนย์ยะลา เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน นางดวงกมล อินจำปา อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 379/8 ถนนสิโรรส อ.เมืองยะลา พร้อม ด.ช.เอื้ออังกูร อินจำปา อายุ 8 ขวบ หลานชายและญาติพี่น้อง เดินทางไปรับศพ ว่าที่ ร.ต.(หญิง) กุลลธิดา อินจำปา อายุ 33 ปี ลูกสาว เป็น รอง ผอ.รร.บ้านลาเมาะ หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกโจรใต้ยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 พ.ย. ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากสอนหนังสือมุ่งหน้ากลับบ้าน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติพี่น้อง

โดยญาติได้นำศพไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่ฌาปนสถานเทศบาลนครยะลา นางดวงมกลกล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็น อย่างมาก ลูกสาวถือเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องรับภาระเลี้ยงดูตนและ ด.ช.เอื้ออังกูรลูกชาย ตนกับญาติปรึกษากันว่าจะเดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมชาวไทยพุทธที่หนีภัยโจรมาพักที่วัดนิโรธสังฆาราม อ.เมืองยะลา เพื่อขอความเป็นธรรม ใครจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะมีแนวทางการไขปัญหาอย่างไร คดีนี้อยากจะให้นายกรัฐมนตรีกำชับเจ้าหน้าที่เร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง เพราะที่ผ่านมาทุกครั้งที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับคนร้ายได้

ขณะเดียวกัน ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายยิงว่าที่ ร.ต.กุลลธิดาเสียชีวิต ข้าราชการครูใน อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ได้ร่วมประชุมกันที่โรงเรียนบ้านยะบะ อ.รือเสาะ และมีมติให้โรงเรียน 40 แห่ง หยุดการเรียนการสอนไม่มีกำหนด โดยอ้างเหตุผลในเรื่องของความไม่ปลอดภัย ส่วนจะเปิดเรียนได้ในวันไหนนั้น ข้าราชการครูทั้งหมดจะกลับมาประชุมร่วมกันอีกครั้งหลังเผาศพว่าที่ ร.ต.กุลลธิดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ท.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.ฉก.34 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสวนยางพาราบ้านเมาะซาวา หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ ยึดอาวุธ ปืนอาก้า 1 กระบอก กระสุน 5 นัด ฝังดินอยู่ในสวนยาง คาดเป็นอาวุธของกลุมอาร์เคเคที่เตรียมนำมาใช้ก่อเหตุ

ในขณะที่เหตุความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน ขณะนายดอรอนิง สุหลง อายุ 48 ปี อส.จ.ยะลา ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ถึงบริเวณสะพานบ้านบาโด หมู่ 3 ต.ยุโป อ.เมืองยะลา ถูก 4 โจรใต้ซุ่มยิงด้วยปืนลูกซองบาดเจ็บ แต่นายดอรอนิงแข็งใจชักปืนพกออกมายิงสู้คนร้ายจนล่าถอยเข้าป่าไป หลังเกิดเหตุคนร้ายโปรยตะปูเรือใบเพื่อสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่ด้วย

แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงเปิดเผยว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนร้ายเตรียมแผนก่อเหตุอีกครั้งโดยใช้ คาร์บอมบ์ เนื่องจากที่ผ่านมามีรถจักรยานยนต์ถูกโจรกรรมในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา จำนวน 3 คัน อาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายนำรถจักรยานยนต์ไปติดตั้งระเบิด จากนั้นนำไปจอดในพื้นจุดเป้าหมาย แล้วใช้โทรศัพท์ มือถือจุดชนวนระเบิด โดยความผิดปกติที่เกิดขึ้นทางหน่วยข่าวได้แจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยงาน รวมทั้งพื้นที่ที่คาดว่าจะตกเป็นเป้าหมายแล้ว โดยเฉพาะแหล่งชุมชน และสถานที่ราชการ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ