กรุงเก่าวิกฤติอีกแค่-50ซม.ล้นเจ้าพระยา

แม่น้ำเจ้าพระยาใกล้วิกฤติระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเหลือเพียง 50 ซม.จะล้นตลิ่ง

พ่อเมืองกรุงเก่าต้องระดมเจ้าหน้าที่เสริมแนวป้องกันพระตำหนักสิริยาลัย และวัดไชยวัฒนาราม ชี้สัปดาห์หน้าน้ำเหนือจะไหลมารวมกันที่เขื่อนเจ้าพระยาก่อนปล่อยระบายลงมา ทำให้พื้นที่ริมน้ำด้านล่างเจอน้ำท่วมหนักกว่าปีที่ผ่านมา ด้าน จ.นครสวรรค์ ประกาศให้ 6 อำเภอ เป็นเขตประสบภัยน้ำท่วมแล้ว

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ก.ย. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรหมู่บ้านรินทร์ทอง

หมู่ 2 ต.ลำสามแก้ว อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยและแผ่นดินทรุด หลังเกิดฝนตกหนักเมื่อคืนวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยประทานถุงยังชีพจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ให้ผู้ประสบภัยที่เฝ้ารับเสด็จ ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ หมู่บ้านรินทร์ทอง สร้างความปลาบปลื้มให้กับชาวบ้าน

ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 15.00 น. นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ประสงค์ บุตรขวัญ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี และว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันตรวจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีทหารกองโรงงานวัตถุระเบิด กรมสรรพาวุธทหารบก ช่วยกันรื้อพื้นด้านนอกตัวอาคารพระตำหนักสิริยาลัย เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับตั้งแนวกำแพงเขื่อนป้องกันน้ำท่วมแบบน็อกดาวน์ด้านหน้าพระตำหนักสิริยาลัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เร่งเสริมตลิ่งด้านหน้าวัดไชยวัฒนารามเพื่อป้องกันน้ำหลังแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหลืออีก 50 ซม.ก็จะล้นตลิ่ง

นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า

จากข้อมูลของชลประทานระบุว่าช่วงต้นสัปดาห์หน้าปริมาณน้ำจากภาคเหนือจะไหลมารวมกันที่เขื่อนเจ้าพระยา และจะถูกระบายมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปลายสัปดาห์ โดยคาดว่าหลังจากนี้ปริมาณน้ำจะเพิ่มมากขึ้นอย่างน้อย 70 ซม.-1 เมตร มากกว่าปีที่ผ่านมาราว 10-20 ซม. ชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำจะถูกน้ำท่วมอย่างแน่นอน จึงต้องเตรียมตัวรับมือให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ เป็นห่วงอีกว่า พายุที่กำลังก่อตัวในขณะนี้จะส่งผลเกิดน้ำท่วมมากขึ้นไปอีก

ขณะเดียวกัน ชาวบ้านใน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยากว่า 200 คน นำโดยนายสวาย คงแสงภักดิ์ อายุ 45 ปี กำนันตำบลหันตเภา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

รวมตัวกันที่สะพานหน้าประตูน้ำโครงการชลประทานรังสิต (ประตูน้ำพระอินทร์) หมู่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูระบายน้ำ เนื่องจากขณะนี้น้ำในคลองชลประทานใน อ.วังน้อย ทะลักท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนกว่า 10 ตำบลแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าช่วงนี้มีน้ำจาก จ.สระบุรีไหลมามาก ทำให้น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนยินยอมเปิดประตูระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน

นายกวี กิตติสถาพร ผวจ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดนครสวรรค์มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้วจำนวน 6 อำเภอ

และประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว ได้แก่ อ.ลาดยาว บรรพตพิสัย ชุมตาบง ตากฟ้า แม่เปิน และแม่วงก์ รวม 21 ตำบล 127 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6,551 ครัวเรือน จำนวน 20,546 คน ถนนพังเสียหาย 60 สาย ฝาย 7 แห่ง พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 22,842 ไร่ ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดน้ำในหนองบัวไหลเข้า อ.ชุมแสง ทำให้พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำน่านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 1-2 วันนี้ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มของแม่น้ำน่านได้ ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะพยากรณ์อากาศทั่วไปว่า ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย

ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นลมแรง ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง เนื่องจากมีพายุโซนร้อน "หม่าโหล" (MALOU) กำลังเคลื่อนเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม.