เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 กันยายน กลุ่มคนเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 จำนวน 50 คน นำโดยนายวรวุฒิ รุจนาภินันท์ หรือดีเจแดง สองแคว นำโลงศพนายกฤษดา กล้าหาญ หรือน้องเจมส์ อายุ 27 ปี สมาชิกการ์ดคนเสื้อแดงใส่รถกระบะแห่ไปประท้วงถามหาความเป็นธรรมที่หน้า สภ.เมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังจากน้องเจมส์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะเดินทางกลับบ้านพักในย่าน อ.หางดง พร้อมภรรยาหลังเสร็จสิ้นภารกิจขายสินค้าที่ระลึกบริเวณถนนคนเดินเมื่อกลางดึกวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา และต่อมาน้องเจมส์ได้เสียชีวิตลงเพราะทนพิษบาดแผลจากกระสุนปืนเอ็ม 16 จากฝีมือคนร้ายไม่ได้เมื่อเย็นวันที่ 4 กันยายน 2553
ทั้งนี้หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง แจ้งให้ทราบว่า คดีเกิดในพื้นที่ อ.หางดง กลุ่มคนเสื้อแดงรักเชียงใหม่ 51 จึงเดินทางไปรวมตัวกันที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภาค 5 เพื่อทวงถาม 3 ข้อ ว่าใครเป็นคนรับผิดชอบคดีดังกล่าว คดีมีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว และจะมีการจับแพะหรือไม่ เพราะหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ไ ด้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคดีนี้ค่อนข้างยากที่จะจับกุมคนร้าย ซึ่งถือว่าเป็นการไม่รับผิดชอบต่อคนตาย เพราะวงจรปิดที่มีการติดตั้งไว้ทั่วเมืองเชียงใหม่น่าจะมีเบาะแสจับกุมคนลงมือได้
นายวรวุฒิ กล่าวว่า ทุกวันนี้คนเสื้อแดงรู้สึกอึดอัดจากการหยุดเคลื่อนไหวมานานกว่า 3 - 4 เดือน คนตายเป็นการ์ดที่ไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครมาก่อน ทำไมต้องมาฆ่ากันด้วย ตั้งแต่เกิดคดีผ่านมาแล้ว 7 วัน ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ก่อนตายรู้ตัวว่ามีคนติดตามแต่ก็หนีไม่รอด ฝากถาม พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ว่ากำลังจะย้ายไปได้ดิบได้ดีแล้ว ทำไมต้องทำอย่างนี้ ฝากถามตำรวจคนอื่นว่าไม่มีใครเป็นสุภาพบุรุษแบบจ่าเพียร(พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา)เลยหรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงจะเดินทางมาถึง พล.ต.ท.สมคิด ได้เดินทางออกไปจากสำนักงานก่อนแล้ว คงเหลือเพียง พล.ต.ต.สุธีระ ปุณณะบุตร ผบก.สส.ภ.5 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำเครื่องกีดขวางลวดหนามมาตั้งด่านสกัดที่หน้าประตูทางเข้าออก แต่ไม่มีการยื่นหนังสือหรือมีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ก่อนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะสลายตัวกลับไปหลังชุมนุมกันอยู่เพียง 30 นาที เพื่อนำศพน้องเจมส์ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพระสิงห์วรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งแกนนำได้ประกาศออกสถานีวิทยุชุมชนเพื่อสมทบทุนและร่วมงานศพน้องเจมส์