สั่งศึกษาธิการ ชงแผนล้อมคอก นร.-นศ.ตีกัน

นายกฯสั่ง รมว.ศึกษาธิการ ชงแผนล้อมคอก นร.-นศ.ตีกัน เข้าครม.อังคารนี้ จี้มุ่งเชิงรุก ย้ำพร้อมปรองดองเพื่อไทย-แม้ว ชี้การกระทำสำคัญสุด โอ่ปมเขมรดีวันดีคืน ย้ำคดีวิคเตอร์ บูทให้กระบวนการ กม.ตัดสิน...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ออก อากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าร่วมงานวันชาติของไทย (Thailand Day) ในงานมหกรรมเอ็กซ์โปโลก (The World Exposition Shanghai China 2010) ที่นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำกรอบเจรจาไทย-จีน ในการร่วมมือสร้างรถไฟความเร็วสูงว่า ก่อนหน้าที่จะเดินทาง ได้มีการพูดคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม เพื่อจัดทำกรอบการเจรจาฯ โดยใช้รางมาตรฐาน และมีความเร็วสูงกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่ากรอบการเจรจานี้จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า และเสนอต่อรัฐสภาต่อไป

นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวถึงปัญหาเด็กนักเรียนตีกันว่า รัฐบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินคดี อย่างเคร่งครัด พร้อมสั่งให้ปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ ไประดมความร่วมมือ จากหน่วยงานต่างๆ ที่จะทำงานในเชิงการป้องกัน และทำงานเชิงรุก โดยมอบหมายให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รายงานต่อที่ประชุม ครม. ในมาตรการที่จะเกิดขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาเด็กนักเรียนตีกันในวันที่ 7 ก.ย.นี้

เมื่อถามถึงความพร้อมในการเตรียมประกาศตัวประเทศไทยเป็น เจ้าภาพในการจัดงานมหกรรมเอ็กซ์โปโลก 2020 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมีรายละเอียดอีกมาก เพราะต้องหาข้อยุติในเรื่องของสถานที่ที่ชัดเจน โดยมอบหมายให้ สสปน.คาดจะได้ข้อยุติใน 7 เดือนข้างหน้า และคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรก 2554 จะสามารถยื่นเสนอตัวอย่างเป็นทางการได้ อย่างน้อยที่สุดเราจะใช้โอกาสในการมาร่วมงานครั้งนี้ประกาศความสนใจที่จะ เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองทั้งเหตุระเบิดป่วนเมือง, ทางพรรคเพื่อไทยเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ และการเข้าพบวิคเตอร์ บูท ของ กมธ. ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่าคิดมาก ปัญหาการเมืองจะมีตลอดเวลา แต่สิ่งที่ผิดปกติคือเหตุการณ์ความรุนแรง ทุกฝ่ายต้องมาช่วยเหลือกัน ซึ่งได้กำชับทาง ศอฉ.ให้ เฝ้าระวังในพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีอยากจะร่วมแก้ปัญหากับรัฐบาลนั้น เป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เพราะโดยพื้นฐานของนักการเมืองคือมีหน้าที่ปกป้องระบบรัฐสภา ซึ่งถ้าทางพรรคเพื่อไทยแสดงความจริงจังในการจะร่วมแก้ปัญหา ก็ยินดีที่จะคุยด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมาช่วยกันทำงาน โดยการนำเอาความแตกต่างเข้าสู่ระบบรับสภา เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเมืองที่ยังมี

ส่วนกรณีของวิคเตอร์ บูทนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า เรามีกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ศาลได้นัดในคดีที่ 2 ที่จะมีการยื่นขอตัวในวันที่ 1 ต.ค. ก็ต้องรอกระบวนการตรงนั้นให้มีความชัดเจนเสียก่อน ว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร เมื่อถามถึงคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมในการเข้าสู่กระบวนการปรองดองร่วมกับทุกฝ่าย นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่จะช่วยได้มากคือท่านต้องมาช่วยรัฐบาลทำงาน กับกระบวนที่ต้องยอมรับได้ ถ้ายังคิดว่าอยากจะแสดงออกที่ชัดเจน เพื่อคลายความกังวลจะได้ไม่มีการมากล่าวหากัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย ส่งสัญญาณ หรือการสัมภาษณ์อะไรก็แล้วแต่ ผมว่าการกระทำสำคัญที่สุด ถ้าการกระทำไปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ไทย-กัมพูชา นายกฯ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ตอนนี้ดีขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศได้ตัดสินใจส่งทูตของแต่ละประเทศกลับไปทำหน้าที่ และจะมีการดำเนินการในกระบวนการต่างๆ ต่อไป  และมีความชัดเจนระหว่างกันว่าพร้อมที่จะมีการพูดคุยกันในทุกโอกาส และจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องการในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และการรักษาความสัมพันธ์อันดี.