นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า ในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2553 ธุรกิจประกันภัยไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน 2553
มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 196,899 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.12% โดยธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 137,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 18,274ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15.34 % และธุรกิจประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรง จำนวน 59,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 6,094 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 11.42 %
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากธุรกิจประกันภัยมีอัตราการขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมาตรการเชิงรุกของ สำนักงาน คปภ.
ในการขยายความรู้ด้านการประกันภัยผ่านหน่วยงานเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้สอดคล้องกับความต้องการและกำลังซื้อของประชาชนมากขึ้น และสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2553 ก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนเริ่มเล็งเห็นความสำคัญของการประกันภัย และหันมาทำประกันภัยมากขึ้น
ปัจจุบันธุรกิจประกันภัยมีจำนวนกรมธรรม์รวมทั้งสิ้น 35,929,304 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.28 แยกเป็นกรมธรรม์ของธุรกิจประกันชีวิต 16,565,082 ราย
ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.06 คิดเป็นอัตราส่วนจำนวนกรมธรรม์ต่อจำนวนประชากร ร้อยละ 26.07 มีจำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากับ 6,635,180 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.01 และเป็นกรมธรรม์ของธุรกิจประกันวินาศภัย 19,364,222 ราย ขยายตัวเพิ่มขึ้น
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 14.18 และมีจำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากับ 29,006,562 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 8.05
สำหรับการขยายตัวของสัดส่วนการทำประกันภัยต่อการเจริญเติบโตของประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในไตรมาส 4 ปี 2552 GDP
ขยายตัวกลับมาเป็นบวก 5.9 ไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 เศรษฐกิจไทยขยายตัวถึงร้อยละ 12 และไตรมาสที่ 2 ของปี 2553 เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ร้อยละ 9.1 และคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2553 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 7 ดังนั้น จึงคาดว่าในปี 2553สัดส่วนเบี้ยประกันภัยต่อ GDP จะอยู่ที่ร้อยละ 4.23
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2553 คาดว่าธุรกิจประกันภัยจะสามารถเติบโตได้ทั้งในด้านเบี้ยประกันภัยรับ สินทรัพย์ และเงินกองทุน
โดยเบี้ยประกันภัยรับของธุรกิจประกันภัยจะสามารถเติบโตได้ประมาณ 15% โดยเป็นเบี้ยประกันภัยประมาณ 423,158 ล้านบาท ทั้งนี้ได้ประมาณการเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงของธุรกิจประกันชีวิตขยายตัวที่ 16% เป็นเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงประมาณ 299,912 ล้านบาท และธุรกิจประกันวินาศภัยขยายตัวที่ 12% เป็นเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงประมาณ 123,246 ล้านบาท
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
