เมื่อ วันที่ 27 ส.ค.นางแดง (นามสมมติ) อายุ 30 ปีพนักงานบริษัทในนิคมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา บ้านอยู่จ.สุพรรณบุรี
เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลอง 7 ต.ลำผักกูด อ.ธัญญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมนายดำ (นามสมมติ) บิดาด.ญ.อ๋อม (นามสมมติ) บุตรสาว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นประถมโรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.สิงห์บุรี หลังถูกเพื่อนนักเรียนรุมทำร้ายอย่างทารุณ แถมขู่ฆ่าถ้าเอาเรื่องไปบอกพ่อแม่ กระทั่งครูรู้เรื่องส่งคลิปขณะถูกรุมสกรัมให้ดูพร้อมหลักฐานจึงเข้าแจ้งความแต่ตร.ท้องที่กลับเฉยไม่ทำอะไรเลย ต้องโร่มาขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิปวีณา
นางจุฑามาศเปิดคลิปวิดีโอให้นางปวีณาดู ซึ่งภาพน่าสลดใจ
พบนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งกำลังรุมทำร้ายนักเรียนหญิงสองคนซึ่งตัวเล็กกว่าอย่างทารุณทั้งตบเตะกระทืบและถีบหัวอย่างเมามัน ไม่ปรานี แม้ว่าผู้ที่ถูกทำร้ายจะยกมือไหว้ขอ แต่กลับยั่วยุให้เด็กหญิงกลุ่มนี้เกิดอารมณ์และเข้าทำร้ายอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเพื่อนๆ นักเรียนหลายคนยืนดูหน้าตาเฉยในห้องซ้อมดนตรี ซึ่งการรุมทำร้ายนานกว่า 6 นาทีอีกทั้งยังข่มขู่ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกอาจารย์ หากเรื่องรู้ถึงอาจารย์จะฆ่าให้ตาย
ต่อมาเวลา 15.00 น. นางจุพามาศกล่าวว่า ได้พาบุตรสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.บางระจัน พร้อมคลิปวิดีโอ พร้อมส่งตัวไป รพ.บางระจัน เพื่อตรวจร่างกาย และวันที่ 24 ส.ค.เดินทางไปที่ สภ.บางระจัน เพื่อสอบถามความคืบหน้า เตำรวจกลับบอกว่าต้องรอผลตรวจร่างกาย ถ้าไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย ก็ไม่สามารถเอาผิดกับกลุ่มนักเรียนกลุ่มได้ เพราะคลิปวิดีโอ ตัดต่อได้ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ ตนเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม จึงเข้าร้องมูลนิธิปวีณา
ด้านน้องอ๋อมเปิดเผยว่า ถูกทำร้ายสองครั้งในวันเดียวกัน
ครั้งแรกกลุ่มด.ญ.เอกับพวกรวม 5 คน เรียกตนไปหาที่ใต้ต้นก้ามปูสนามฟุตบอลหน้าโรงเรียน ด.ญ.เอ บอกให้ตนไปตามด.ญ.แป้ง(นามสมมติ)ให้มาพบช่วงเย็นโดยไม่บอกสาเหตุว่าให้มาพบเรื่องอะไรขู่ว่าถ้าไม่ตามจะโดนทำร้ายคนเดียว จากนั้นก็ลงมือตบหน้าและผลักจนล้มลง ต่อมาช่วงเย็นบ่ายสองโม ตนกับด.ญ.แป้งก็ถูกกลุ่มของด.ญ.เอทำร้าย ทั้งเตะ ถีบ เตะกระทืบ และเหยียบหัว ตนยกมือไหว้ขอร้อง แต่กลับลงมือต่ออย่างไม่ปราณี สาเหตุเพราะมีคนไปบอกด.ญ.เอ ว่าตนกับด.ญ.แป้งไปด่ากลุ่มด.ญ.เอและบังคับให้ ด.ญ.แป้งกราบเท้า แต่ด.ญ.แป้งไม่ยอมกราบและเถียงว่าไม่ใช่พ่อจึงเป็นสาเหตุถูกรุมสกรัม
ด้านนางปวีณาติดต่อไปยังพ.ต.อ.บัญชา ติปยานนท์ ผกก.สภ.บางประจัน และพล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.สิงห์บุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดต่อไป