คมชัดลึก :กรมวิทย์เตือนใช้แป้งพับก๊อบปี้แบรนด์เนมชื่อดังปนเปื้อนสารโลหะหนักเพียบ ทั้งสารหนู ตะกั่ว แคดเมียม และปรอท สะสมนานชี้เป็นปัจจัยเสริมก่อมะเร็ง เผยแหล่งขายตามแนวชายแดนสุดอันตราย เหตุพบปนเปื้อนมากที่สุด แนะวิธีการเลือกซื้อ ดูแหล่งผลิต วันผลิตและวันหมดอายุ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่โรงแรมแชงกรี-ลา บางรัก กทม. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขจัดการประชุมวิทยาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ ครั้งที่ 18
หัวข้อ “นวัตกรรมก้าวไกล เครือข่ายยั่งยืน” โดยนางกันยารัตน์ ชลสิทธิ์ เภสัชกรผู้ชำนาญการ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 ได้นำเสนอผลงานวิจัยเรื่อง “การปนเปื้อนโลหะหนักในแป้งผัดหน้าชนิดอัดแข็ง” (แป้งพับ) ซึ่งพบการปนเปื้อนโลหะหนักในตัวอย่างที่สุ่มตรวจ
นางกันยารัตน์กล่าวว่า สาเหตุที่วิจัยการปนเปื้อนในแป้งพับ
เนื่องจากเห็นว่าแป้งพับเป็นเครื่องสำอางที่ผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบันนิยมใช้เป็นประจำทุกวัน และที่ผ่านมายังไม่เคยทดสอบการปนเปื้อนโลหะหนัก อาทิ สารปรอท แคดเมียม สารตระกั่ว และสารหนู ในผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการตรวจในครีมทาหน้าชนิดต่างๆ เท่านั้น จึงอยากรู้ว่าแป้งพับที่ขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไปมีการปนเปื้อนของสารโลหะหนักหรือไม่ จึงได้นำเสนอโครงการวิจัย โดยได้เก็บตัวอย่างแป้งพับที่จำหน่ายในแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งหมด 393 ตัวอย่าง แยกเป็นเครื่องสำอางที่เก็บจากร้านค้าทั่วไป 323 ตัวอย่าง และร้านค้าที่ตั้งอยู่ตามเขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน 70 ตัวอย่าง
เตือนแป้งพับก๊อบปี้แบรนด์เนมชื่อดังเสี่ยงมะเร็ง
นางกันยารัตน์กล่าวว่า ผลจากการตรวจพบว่า ตัวอย่างแป้งพับจากร้านค้าชายแดนมีปริมาณโลหะหนักปนเปื้อนเกิน 12 ตัวอย่าง จาก 70 ตัวอย่าง
คิดเป็นร้อยละ 17.2 โดยพบว่า มีการปนเปื้อนสารหนูมากที่สุด รองลงมาเป็นตระกั่ว แคดเมียม และปรอท และร้านค้าทั่วไปพบ 10 ตัวอย่าง จาก 323 หรือคิดเป็นร้อยละ 3.1 โดยพบสารหนู ตะกั่ว แคดเมียม แต่ไม่พบปรอท ทั้งนี้แม้ว่าปริมาณตัวอย่างการปนเปื้อนจะมีไม่มาก แต่ที่น่าสนใจคือ ใน 17 ตัวอย่างจาก 22 ตัวอย่างแป้งพับที่ปนเปื้อนนี้ เป็นแป้งพับที่ลอกเลียนแบบยี่ห้อดังของต่างประเทศ ขณะเดียวกันตัวอย่างแป้งพับที่มีแหล่งผลิตอยู่ในประเทศไทย เช่น ที่โรงงานสมุทรสาคร สมุทรปราการ ซึ่งมีการระบุวันผลิตและวันหมดอายุในฉลากผลิตภัณฑ์ กลับไม่พบการปนเปื้อนของโลหะหนักเหล่านี้
“จากงานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า แป้งพับที่เป็นปัญหาพบสารปนเปื้อนส่วนใหญ่จะเป็นแป้งพับที่ก๊อบปี้แบรนด์ดังจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากฝรั่งเศสและอเมริกา นอกจากนี้ยังมีแป้งพับก๊อบบี้แบรนด์เครื่องสำอางประเทศเกาหลีที่กำลังฮิตในประเทศ ดังนั้นการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จึงต้องระวังในกลุ่มสินค้าที่ลอกเลียนแบบมากที่สุด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีระบุสถานที่ผลิต วันผลิตและวันหมดอายุ ส่วนเครื่องสำอางแบรนด์เนมนั้น ไม่ได้เก็บตัวอย่างตรวจ แต่เชื่อว่าไม่เป็นปัญหา เนื่องจากมีราคาแพง การใช้วัตถุผลิตที่ดีมีคุณภาพ และมีมาตรฐานควบคุมการผลิตที่ดี” นางกันยารัตน์กล่าว
ด้าน นายชัยพัฒน์ ธิตะจารี เภสัชกรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 กล่าวว่า สารปนเปื้อนโลหะหนักเหล่านี้
หากดูดซึมเข้าร่างกายเป็นเวลานาน จะทำให้ไตทำงานผิดปกติและอาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ คล้ายกับที่ร่างกายได้รับสารตกค้างจากโรงงานอุตสาหกรรมและมลภาวะที่เป็นพิษ อย่างไรก็ตามจากงานวิจัยนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 10 ได้ต่อยอดจากงานวิจัยชิ้นนี้ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้แป้งพับของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง และกลุ่มอาชีพที่ใช้แป้งพับเป็นประจำ โดยการใช้แบบสอบถาม ซึ่งได้เก็บตัวอย่างแล้วจำนวน 1,200-1,300 ตัวอย่างทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์เพื่อสรุปความเสี่ยงของคนไทยในการใช้แป้งพับนี้