เนื้อวัวเป็นอาหารหลักของพลเมืองโลก โดยเฉพาะชาวอเมริกันและยุโรปที่กินเนื้อวัวเป็นกิจวัตร
หลังจากที่ชาวอังกฤษแตกตื่นเพราะพบเนื้อวัวโคลนนิ่งในตลาดค้าเนื้อและวิจารณ์กันอย่างครึกโครมถึงจรรยาบรรณอุตสาหกรรมอาหาร นักวิจัยอเมริกันประกาศว่าอังกฤษควรผลักแนวคิดอนุรักษ์เอาไว้เบื้องหลังและยอมรับความก้าวหน้า ไม่เช่นนั้นจะถูกทิ้งอยู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมผลิตอาหารโลก
นักวิจัยอเมริกันอ้าแขนรับเทคโนโลยีโคลนนิ่ง
พร้อมกับตั้งหน้าตั้งตานำตัวอย่างเซลล์วัวที่ถูกคัดส่งเข้าโรงฆ่ามาชุบชีวิต เพื่อให้ได้เซลล์ที่มีคุณภาพดีที่สุดสำหรับการเจริญเติบโตของวัวโคลนนิ่ง กลายเป็น "ซูเปอร์วัว" ซึ่งกฎหมายสหรัฐรับรองว่าเนื้อวัวและนมวัวจากวัวโคลนนิ่งปลอดภัยได้มาตรฐาน เบรดี้ ฮิกส์ จาก บริษัทเจ อาร์ ซิม พล็อต รัฐไอดาโฮ หนึ่งในบริษัทที่อยู่แถวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีโคลนนิ่งของสหรัฐ กล่าวว่า เราคัดเลือกลักษณะที่เราต้องการเป็นอย่างดี เพื่อนำมาสร้างใหม่
แม้ว่าองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐ (เอฟดีเอ) ประกาศให้เนื้อและนมจากสัตว์โคลนนิ่งกินได้ปลอดภัย
แต่เนื้อวัวโคลนนิ่งยังมีสัดส่วนน้อยมาก ในอัตราวัวโคลนนิ่ง 1,000 ตัวต่อวัวจริง 100 ล้านตัวและซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างโฮล์ฟู้ดสั่งห้ามจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสัตว์โคลนนิ่ง มาร์ก วอลตัน ประธานบริษัทเวียเก็น บริษัทโคลนนิ่งสัตว์อีกแห่ง กล่าวว่า ท้ายสุดการโคลนนิ่งจะกลายเป็นเรื่องปกติในวงการกสิกรรมทั่วโลก ยังไม่มีหลักฐานว่าเนื้อจากวัวโคลนนิ่งหรือลูกของมันมีอันตรายต่อสุขภาพ แม้ว่าองค์การความปลอดภัยด้านอาหารของยุโรปจะปักธงรองานวิจัยเพิ่มเติม