เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีหนุ่มวัยรุ่นถูกโจ๋ไล่ยิงจนเสื้อทะลุหัวกระสุนฝังบริเวณผิวหนังบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ชื่อนายมนตรี มยุรี อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329/75 หมู่ 4 ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก แต่ได้เดินทางมากราบพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ อ.เมืองพิษณุโลก จึงได้ไปตรวจสอบ พบว่าอยู่บนศาลาการเปรียญ
จากการสอบถามนายมนตรี เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่เหตุเกิดมาหลายวันแล้ว วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 21.50 น. ตนได้ขี่รถจักกรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ก-9 พิษณุโลก หาแฟนสาวซึ่งพักอยู่ในหมู่บ้านเอื้ออาทรโครงการ 2 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก หลังจากนั้นได้ขี่รถออกมาซื้อนมกล่องให้แฟนสาวที่ร้านสะดวกซื้อ ในปั๊มปตท. ระหว่างเดินทางกลับมาถึงช่วงเชิงสะพาน 3 ต.บึงพระ ซึ่งเป็นเส้นทางเปลี่ยว ปรากฏว่าได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์เร่งเครื่องขึ้นมาประกบรถจักรยานยนต์ของตน จำได้ว่าเป็นวัยรุ่นจำนวน 2 คน นุ่งกางเกงขาสั้น สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ก่อนที่คนนั่งซ้อนท้ายชักปืนออกมาจากเอว เป็นปืนสั้นคล้ายปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ พร้อมกับยิงใส่ตน 1 นัด ตนจึงตั้งสติเร่งเครื่องหนีทันทีเพราะกลัวมาก แต่คนร้ายยังใช้ปืนยิงใส่ตนหลังอีก 2 นัด หลังจากนั้นจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์กลับไปหาแฟนสาวที่บ้านพักเอื้ออาทร พร้อมกับบอกว่าถูกไล่ยิงมา จากนั้นได้พากันไปแจ้งความกับ พ.ต.ต.สันตสิริ เมตตาวงศ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองพิษณุโลก โดยเสื้อที่สวมใส่มีรูกระสุนปืนยิงทะลุ 2 รู บริเวณที่ถูกยิงสภาพผิวหนังมีร่องรอยสะเก็ดดินปืน และเขม่าดินปืนดินที่เสื้อและผิวหนัง
อย่างไรก็ตาม นายมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน และไม่ทราบสาเหตุถูกไล่ยิงครั้งนี้เลย หลังจากแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำหนังสือส่งตัวไปที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ตนนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1 คืน 1 วัน โดยแพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ พบหัวกระสุน 1 หัวยังฝังอยู่ที่หน้าท้องบริเวณและบวมช้ำที่บริเวณแผลดังกล่าว
นายมนตรี เปิดเผยว่า ตนเชื่อว่าการรอดชีวิตครั้งนี้ อาจจะมาจากความศักดิ์ของพระเครื่องที่ตนติดตัวเป็นประจำเพียงองค์เดียว ซึ่งเป็นพระนางพญารุ่นมิตรภาพ 49 พิมพ์เข่าตรงของวัดราชบูรณะ จ.พิษณุโลก เป็นพระที่มีพิธีพุทธาภิเษกในปี 2549 เป็นเนื้อดินเผาผสมเนื้อนางพญารุ่นเก่า ตนได้มานานแล้วตั้งแต่ช่วงแรกหลังเสร็จการประกอบพิธี จึงได้นำไปเลี่ยมพลาสติกคล้องคอมาตลอด กระทั่งเกิดเหตุจึงเชื่อในเรื่องพุทธคุณของพระเครื่องที่ตนคล้องอยู่