รายงานข่าวแจ้งว่า ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด
มีเด็กป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกจำนวนมากทะยอยเข้าตรวจและรักษาตัว เฉลี่ยวันละ 10-15 คน โดยเฉพาะวันที่ 17 ส.ค. ช่วงเช้ามีจำนวน 12 คน ทั้งในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดและต่างอำเภอ และมีทีท่าว่าจะเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา ทำให้เตียงคนไข้ของตึกกุมารเวชกรรมไม่พอเพียงกับความต้องการ โรงพยาบาลต้องจัดให้นอนที่พื้นและด้านนอกของตึกไปพลางก่อนกว่า 30 ราย
ด้านนายแพทย์กฤษดา มโนรัตน์ หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรมโรงพยาบาลร้อยเอ็ด กล่าวว่าในฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงสุด เนื่องจากมีแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายและจำนวนยุงลายมากขึ้นด้วย เพราะอุณหภูมิ ความชื้น มีความเหมาะสมในการแพร่พันธุ์ของยุง ปัจจุบันโรงพยาบาลร้อยเอ็ดเริ่มมีผู้ป่วยมากขึ้นตลอดเวลา จนคมไข้ล้นเตียง โชคดีที่รักษาได้ทัน ปัจจุบันยังไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
ขอเตือนพี่น้องประชาชนทุกคนรวมทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ที่อาศัยอยู่ที่บ้าน ให้หมั่นดูแลตรวจตราสภาพภายในบ้านให้ห่างไกลจากโรคไข้เลือดออก
ด้วยการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในอาคารบ้านเรือน ปิดฝาโอ่งน้ำให้มิดชิด ขัดล้างทำความสะอาดภาชนะใส่น้ำทุกวัน ใส่เกลือหรือผงซักผ้าในจานรองขาตู้กับข้าว หยอดทรายอะเบทในน้ำใช้ และตามร่องน้ำ จัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านและนอกบ้านให้สะอาด โล่ง มีแสงสว่างเพียงพอ
ถ้าบุตรหลาน มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และมีจุดแดงตามตัว ไม่มีอาการไอจาม ให้สงสัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก
ให้รีบพาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด ถ้าไข้สูงควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวสลับกับการให้ ยาพาราเซตามอลลดไข้ ห้ามใช้ยาแอสไพริน เพราะจะทำให้เลือด ออกง่าย หากผู้ป่วยอ่อนเพลียให้ดื่มน้ำผลไม้ หรือน้ำตาลเกลือแร่บ่อยๆ แต่ถ้าหากมีอาการกระสับกระส่าย มือเท้าเย็น ไข้ลดลง ต้องรีบนำส่งสถานีอนามัย หรือโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที