เมื่อ 12 ส.ค. เอเอฟพีรายงานว่า วงการแพทย์เตือนผู้ที่เดินทางไปผ่าตัดศัลยกรรมความงามในเอเชียใต้ทั้งอินเดียและปากีสถานที่ห่วงแต่จะเสาะหาค่ารักษาพยาบาลราคาถูกให้ระวังติดเชื้อโรคดื้อยาชนิดใหม่ หรือ "ซูเปอร์บั๊ก" กลับมา
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ในอังกฤษกับมหาวิทยาลัยมัดราสในอินเดียตีพิมพ์ผลการค้นพบในวารสารการแพทย์แลนเซ็ตฉบับวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เตือนว่า คนที่เดินทางไปผ่าตัดในอินเดียและปากีสถานมีสิทธิรับเชื้อดื้อยาพันธุ์ใหม่ซึ่งพบเมื่อปีก่อนว่ากระโดดข้ามสายพันธุ์กันเองได้ เพราะมียีนที่ชื่อ "เอ็นดีเอ็ม 1" ทำให้เชื้อโรคมีคุณสมบัติทนทานยาปฏิชีวนะแทบทุกชนิด รวมถึงยาที่มีฤทธิ์แรงที่สุดอย่างคาร์บาเพเนมส์ ที่มักเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาและยังไม่มียาตัวใหม่ที่จะกำราบเชื้อนี้ได้
คณะวิจัยเก็บตัวอย่างเชื้อแบคทีเรียจากคนไข้ของโรงพยาบาลใน 2 เมืองของอินเดียและจากคนไข้ของห้องแล็บในอังกฤษช่วงระหว่างปี 2550-2552 ตรวจพบคนไข้ที่มีเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีเอ็นดีเอ็ม 1 หลายสิบรายทั้งในอินเดียและอังกฤษรวมทั้งในชาติเอเชียใต้อื่นๆ อย่างบังกลาเทศและปากีสถาน
ทิโมธี วอลช์ จากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ ผู้นำการวิจัย กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่ชาวยุโรปและอเมริกันนิยมไปทำศัลยกรรมตกแต่ง ตนหวั่นว่าอีกไม่นานการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เพื่อเสาะหาประเทศที่มีค่ารักษาราคาถูกและการเดินทางระหว่างประเทศจะทำให้เชื้อตัวใหม่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว