เปิดสถิติเหยื่อทางเพศแห่ขอคำปรึกษาเพียบ ทั้งข่มขืน รุมโทรม ไม่เว้นแม้แต่เด็ก 3 ขวบ ชี้ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด อึ้ง 22% เจอในที่ทำงาน ชี้น้ำเมาเป็นเหตุ
วันนี้ (9 ส.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ทางมูลนิธิเพื่อนหญิงและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกันจัดงานเสวนาเรื่อง "การคุกคามทางเพศ อาชญากรรมร้ายรายวันของสังคม" โดย น.ส.พัชรี จุลหิรัญ นักสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า จากการเก็บสถิติความรุนแรงทางเพศ พบว่ามีผู้ถูกกระทำมาขอคำปรึกษาจากมูลนิธิในปี 2552 ทั้งสิ้น 775 ราย ในจำนวนนี้พบว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศมากถึง 83 ราย คิดเป็น 11 % โดยแยกเป็น 1.กรณีถูกข่มขืนกระทำชำเรา 45 ราย คิดเป็น 54 % 2.พรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเราในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 8 ราย คิดเป็น 10 % 3.พรากผู้เยาว์โดยการยินยอมมีเพศสัมพันธ์ 9 ราย คิดเป็น 11% 4.กรณีถูกรุมโทรม 7 ราย คิดเป็น 9 % โดยมีผู้กระทำรุมโทรมมากสุดถึง 9 ราย 5.อนาจาร 7 ราย คิดเป็น 9% 6.การคุกคามทางเพศ 3 ราย คิดเป็น 4% และ7.พยายามข่มขืน ค้ามนุษย์ แอบถ่าย โชว์อนาจาร 4 ราย หรือคิดเป็น 4 %
น.ส.พัชรี กล่าวต่อว่า ที่น่าตกใจคือ มีผู้กระทำ 33 ราย หรือ 40% เป็นคนที่ใกล้ชิดกับผู้เสียหาย
เช่น เป็นเพื่อนหรือเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้เสียหายที่อายุน้อยสุดคือ 3 ขวบ ซึ่งถูกญาติใช้นิ้วล่วงละเมิดเด็ก ส่วนผู้กระทำมีอายุมากสุดคือ 78 ปี ล่วงละเมิดทางเพศด้วยการอนาจารลูกตัวเองที่มีอายุเพียง 10 ปี และบางรายขอหลับนอนกับลูกอายุ 24 ปี อย่างไรก็ตามการล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว ส่วนใหญ่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้นมากถึง 24 %