ประกาศศอฉ.ประกาศปิดถนนรอบทำเนียบ

 

คมชัดลึก :เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 6 ส.ค.2553 ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ออกประกาศคำสั่ง 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเป็นการปะกาศศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ

            ก.ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่ สะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถึงแยกสวนมิสกวัน

            ข.ถนนราชดำเนินนอก คู่ขนานด้านใน ตั้งแต่ แยกสวมิสกวัน ถึงแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์

            ค.ถนนลูกหลวง ตั้งแต่ แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงแยกเทวกรรมรังรักษ์

            ง.ถนนนครปฐม ตั้งแต่ แยกเทวกรรมรังรักษ์ ถึง สะพานชมัยมรุเชษฐ์

            ข้อ 2. ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามตามประกาศนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

            ข้อ 3.ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตร หรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้

            ข้อ 4.ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2553 เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

            ประกาศ ณ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ค.2553 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

            ส่วนอีก 1 ฉบับ เป็นการประกาศศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน เรื่องห้ามใช้อาคาร หรือ เข้าไป หรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ หรือห้ามเข้าไปในพื้นที่ใด ๆ ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ จ.ปทุมธานี จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.อุบลราชธานี และ จ.นครราชสีมา แล้วนั้น

            เนื่องจากมีความจำเป็นต้องกำหนดการห้ามใช้อาคาร หรือเข้าไป หรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ หรือห้ามเข้าไปในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติได้โดยเร็ว และป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้น อาศัยอำนาจตามข้อ 4 แห่งข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ค.2548 ห้วหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงออกประกาศกำหนดดังนี้

            ข้อ 1.ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ที่มีพฤติการณ์ในการปลุกระดม ยุยง ปลุกปั่น สร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความรุนแรง หรือ เป็นอันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนและความมั่นคงของรัฐ หรือกระทำการอื่นใดอันอาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือทำลายหรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชน หรือของรัฐ ใช้อาคารหรือเข้าไป หรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ หรือห้ามเข้าไปในบริเวณพื้นที่โดยรอบ และอาคารทำเนียบรัฐบาล เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

            ข้อ 2.ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามตามประกาศนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตามที่บทบัญญัติไว้ในมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ข้อ 3.ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตร หรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้

            ข้อ 4.ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


            ประกาศ ณ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ค.2553 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์