เมื่อวันที่ 1 ส.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตั้งแต่เดือนต.ค. นี้เป็นต้นไป ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
เตรียมสั่งระงับการให้บริการโทรศัพท์มือถือยอดนิยม "แบล็กเบอร์รี่" (บีบี) ภายในประเทศเนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง จนกว่าจะหนทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้
นายโมฮัมหมัด อัล กาห์เนม คณะกิจการโทรคมนาคมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ "ทีอาร์เอ" กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นมติสิ้นสุดแล้ว
พร้อมระบุว่า ไม่ใช่เรื่องของการเซ็นเซอร์แต่อย่างใด เป็นเพียงแค่การพักชั่วคราว เนื่องจากไม่สอดคล้องกับข้อบังคับบางประการ โดยจะระงับการให้บริการ ประกอบด้วย โปรแกรมแบล็กเบอร์รี่ เมสเซ็นเจอร์ อีเมล์ และการเข้าสู่เว็บไซต์ผ่านเบราเซอร์ของมือถือดังกล่าว ซึ่งเริ่มเปิดใช้งานมาตั้งแต่ปี 2550 เพื่อปรับบริการต่างๆ ของแบล็กเบอร์รี่ให้สอดคล้องตามนโยบายของทีอาร์เอ
สื่อมวลชนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์รายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวของทีอาร์เอนั้นสืบเนื่องมาจากรูปแบบการให้บริการของโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่
ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถกระทำการโดยปราศจากความรับผิดชอบได้ โดยข้อมูลต่างๆ ถูกส่งผ่านออกนอกประเทศไปยังเซิร์ฟเวอร์ศูนย์กลางที่บริหารจัดการโดยคนต่างชนชาติ ส่งผลให้กระทบต่อกฎหมาย สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยมือถือแบล็กเบอร์รี่เป็นเพียงยี่ห้อเดียวที่มีการทำงานในรูปแบบดังกล่าวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ขณะที่สาธารณรัฐบาห์เรนประกาศเตือนเรื่องการเผยแพร่ข่าวสารผ่านมือถือดังกล่าวเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และทางการอินเดียแสดงความกังวลเรื่องการรั่วไหลของข้อมูลด้านความมั่นคง
อย่างไรก็ตาม การระงับการให้บริการนี้จะไม่กระทบต่อโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น เช่น โนเกีย และไอโฟนจากค่ายแอปเปิ้ล โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีผู้ใช้แบล็กเบอร์รี่อยู่ราว 500,000 คน