นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยหลังประชุมติดตามแก้ปัญหาไข่ไก่ราคาสูงว่า
สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ และตัวแทนผู้ผลิตลูกไข่ไก่ ให้ความร่วมมือปรับลดราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มลงอีกฟองละ 10 สตางค์ จาก 2.80 บาท เหลือ 2.70 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 53 เป็นต้นไป ซึ่งส่งผลให้ราคาแนะนำขายปลีกไข่ไก่ขายในท้องตลาดปรับลดลงตามด้วย
ทั้งนี้ราคาแนะนำขายปลีกใหม่ ณ วันที่ 24 ก.ค.
ซึ่งเป็นการบวกตามสัดส่วนราคาหน้าฟาร์มกับต้นทุนการจำหน่าย ไข่ไก่เบอร์ 0 จะเหลือราคาขายส่ง 3.20 บาท ขายปลีก 3.50 บาท เบอร์ 1 ขายส่ง 3.00 บาท ขายปลีก 3.30 บาท เบอร์ 2 ขายส่ง 2.90 บาท ขายปลีก 3.20 บาท เบอร์ 3 ขายส่ง 2.80 บาท ขายปลีก 3.10 บาท เบอร์ 4 ขายส่ง 2.70 บาท ขายปลีก 3.00 บาท และเบอร์ 5 ขายส่ง 2.60 บาท ขายปลีก 2.80 บาท
สำหรับสาเหตุที่ราคาไข่ไก่ปรับลดลง เป็นผลจากฝนตกและอากาศเย็นลงทำให้ไก่ฟักไข่เพิ่มขึ้น มีผลให้ต้นทุนการเลี้ยงเฉลี่ยลดลง
โดยขณะนี้มีปริมาณไข่ไก่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นแล้ว 5-10% หรือประมาณ 1 ล้านฟอง ช่วยให้มีไข่ไก่ในตลาดเพิ่มเป็นวันละ 26-27 ล้านฟอง เพิ่มจากเดิมที่อยู่ 25-26 ล้านฟอง และใกล้เคียงกลับภาวะปกติที่ 27-28 ล้านฟอง ส่วนแนวโน้มราคาไข่ไก่จะดูแลไม่ให้ขึ้นสูงเกินไป ขณะเดียวกันไม่ให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน
แม่บ้านยิ้มไข่ลดราคา10สต.
นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์ยังได้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคเอกชน
เพื่อติดตามสถานการณ์การจำ หน่ายลูกไก่ และแม่ไก่อย่างใกล้ชิด ตามมติของคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการซื้อขายพันธุ์จนทำให้ไข่แพงเหมือนในปัจจุบัน ขณะเดียวกันจะจัดทำประกาศส่งไปตัวแทน สมาคมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไข่ เพื่อป้องปรามไม่ให้มีการขายพ่วงพันธุ์ไก่ตามที่เป็นข่าว และหากตรวจสอบพบมีความผิด โทษทั้งจำทั้งปรับ
น.ส.จุฑามาศ บุญแสง ผู้แทนสหกรณ์เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า ผู้เลี้ยงไก่ไข่ และสหกรณ์เลี้ยงไก่ไข่มีความเป็นห่วงว่า
หากรัฐบาลเปิดนำเข้าพันธุ์ไก่ไข่เข้ามาอย่างเสรี โดยปราศจากการควบคุมจะส่งผลให้เกิดปัญหา ไข่ไก่ราคาตกต่ำในอนาคตอันใกล้ และส่งผลให้เกษตรกรรายย่อยต้องเลิกเลี้ยงไปในที่สุด โดยขณะนี้ได้ทราบว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (เอ้ก บอร์ด) มีผู้ประกอบการได้ขอยื่นนำเข้าพันธุ์ไก่เข้าเพิ่มแล้ว 4 รายจำนวน 29,500 ตัว ซึ่งจะส่งผลให้มีไข่ไก่หรือไก่ เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอีก 100 เท่า หรือ 2.95 ล้านฟอง
“มีความเป็นห่วงอย่างมากว่าภายใน 6-7 เดือนข้างหน้า จะเกิดภาวะไข่ไก่ล้นตลาด และราคาตกต่ำอย่างยาวนาน เพราะปกติประเทศมีโควตาไข่ไก่ปีละ 405,721 ล้านตัว ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่เมื่อปีนี้ได้เกิดภัยแล้งจนผลผลิตลดลง รัฐก็ได้มีการเพิ่มโควตานำเข้าจนเต็มเพดานอีก 40,000 ตัว บวกกับโควตาเสรีที่ขอมาใหม่อีก 29,500 ตัว ส่งผลให้ในปีนี้มีพันธุ์ไก่เพิ่มอีก 70,000 ตัว และไก่ 1 ตัวผลิตไข่ได้ 100 ฟอง จะเท่ากับมีไข่เข้ามาเพิ่ม 7 ล้านฟอง ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงและเกินความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะเกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปี เพราะไก่มีวงจรชีวิต 3 ปี”
ดังนั้นต้องการเรียกร้องให้ภาครัฐทบ ทวนการเปิดเสรีนำเข้าแม่พันธุ์ไก่ไข่.