กฟผ.โล่งอกฝนตกทำน้ำในเขื่อนเพิ่มสามารถผลิตไฟฟ้าและแบ่งให้ภาคเกษตรได้คล่องตัว
วันนี้( 20 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
เปิดเผยว่า ปริมาณฝนที่ตกต่อเนื่องในช่วงนี้ ส่งผลดีทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขื่อนหลักของกฟผ. ที่เคยวิกฤตการขาดแคลนน้ำ 3 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ และเขื่อนอุบุรัตน์ จ.ขอนแก่น ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อน 3 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมกันกว่า 30% ของความจุอย่าง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่น้ำเริ่มไหลเข้าเขื่อนแล้ว
ทั้งนี้คาดว่านับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปเขื่อนต่างๆ จะเริ่มกักเก็บน้ำสะสมไว้ใช้ในปีต่อไปได้ และ ถ้าฝนยังตกในระดับนี้ไปเรื่อยๆ คาดว่าน้ำในเขื่อนจะสะสมได้เพิ่มขึ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการเกษตรและการผลิตกระแสไฟฟ้า
สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อนของกฟผ.
ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 4,002.49 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 29.73% ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้เพียง 202 ล้านลบ.ม. เขื่อนสิริกิตต์มีปริมาณน้ำ 3,252.61ล้านลบ.ม. คิดเป็น 34.20% ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้ 402.61 ล้านลบ.ม. ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำ 656.27 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 26.99% ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้ 74.60 ล้านลบ.ม.