ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมว่า มีเด็กนักเรียนหญิง โรงเรียน หนองโสน วิทยา อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ยอดกตัญญู ต้องขาดโรงเรียนไปดูแล แม่ซึ่งป่วย เป็นโรคความดันและกระดูก ฐานะยากจน เมื่อเดินทางไปตรวจสอบปรากฏว่า ภาพที่เห็นเป็นที่เวทนายิ่งนัก เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวเป็นกระต๊อบผุพังหลักเล็กๆ ไม่คุ้มฟ้าคุ้มฝน ซึ่งมีด.ญ.กิ่งแก้ว สาคร หรือ น้องเอ๋ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2/3 โรงเรียนหนองโสน อาศัยอยู่กับนาง ศรีนวล สาคร ผู้เป็นแม่ ซึ่งป่วยเป็นโรคความดันสูง และบางครั้งเวลาเดินก็จะรู้สึกเดียวและมีเสียงดังกร๊อบ คล้ายกระดูกแตก และจะรู้สึกเจ็บมากจนเด็กไม่ได้ ทำให้ออกไปหางานทำไม่ได้ ส่วนพ่อคือ นานสนิท สาคร เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ซึ่งครอบครัวของด.ญ.เอ๋ มีฐานะยากจน ทั้งแม่และลูกต้องต้องออกไปรับจ้างตัดอ้อย ซึ่งจะได้ค่าจ่างเพียงวันละ 100 กว่าบาท นำเงินมาซื้อข้าวกับข้าว บางวันแม่ป่วย ด.ญ.กิ่งแก้ว ต้องขาดโรงเรียน ออกไปรับจ้างตัดอ้อยเพื่อหาเงินมาซื้อข้าวกิน บางครั้งขาดเป็นสัปดาห์ ในช่วงฤดูฝนยิ่งลำบาก เพราะเพิงบ้านที่อยู่ไม่สามารถคุ้มฝนได้ ทุกครั้งที่ฝนตก ต้องไปอาศัยหลบฝนที่วัดหนองตาเขียน ใกล้บ้านประมาณ 300 เมตร
กระทั่งนาย นายแปลก เพ็งยอด ผู้อำนวยการโรงเรียน หนองโสนพิทยาคม เห็นเด็กหญิงมีพฤติกรรมน่าสงสารดังกล่าว จึงแจ้งไปยัง นาย สุเสน ทั่งทอง ผอ. เขตพื้นที่การพิจิตรเขต 1ให้ทราบ และได้เข้าตรวจสอบ ซึ่งพบว่า นางศรีนวล มีอาชีพรับจ้างตัดอ้อยในไร่อ้อย ส่วน ด.ญ.กิ่งแก้ว ใช้เวลาว่างช่วยแม่รับจ้างตัดอ้อยในวันหยุด กระท่อมที่อยู่เป็นเพิงเล็กห่างไกลจากโรงเรียนประมาณ 12 ก.ม. การเดินทางไป-กลับโรงเรียน ก็จะใช้วิธีขี่จักรยานออกจากบ้านในไร่อ้อยประมาณ 2 กม. นำรถมาจอดไว้ฝากที่หมู่บ้าน แล้วขึ้นรถของโรงเรียนต่ออีกประมาณ 10 ก.ม.
ทั้งนี้ ผอ.ร.ร.หนองโสนพิทยาคม เปิดเผยว่า ตอนแรกทางโรงเรียนรู้สึก แปลกใจที่ เด็กหญิงกิ่งแก้ว ขาดเรียนบ่อยมากจนน่าเป็นห่วง อีกทั้ง เด็กหญิงกิ่งแก้ว กำลังโตเป็นวัยรุ่น จึงได้ออกไปติดตาม เพื่อจะแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงกลับพบว่า เด็กกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส เพราะบ้านที่อยู่ในขณะนี้เหมือน เล้าไก่ของชาวบ้านบางคนยังดีกว่า เพราะสร้างจากการใช้ไม้ไผ่เหลาเป็นซี่ๆ ระยะห่างประมาณ1 นิ้วเป็นฝาบ้าน และหลังคามุงด้วยแฝก ทางโรงเรียนจึงขอให้คณะกรรมการสถานศึกษาช่วยกัน ไปลงชื่อที่ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง โดยให้ทุกคนร่วมกันค้ำประกัน และวัสดุก่อสร้างมาปรับปรุงบ้านใหม่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้แค่ไหนเพราะทุกคนก็เดือดร้อนเหมือนกัน
ทางด้าน ด.ญ.กิ่งแก้ว กล่าวทั้งน้ำตาว่า สาเหตุที่ต้องขาดเรียนก็เป็นเพราะ ต้องออกไปรับจ้างตัดอ้อย ดายหญ้าและปลุกอ้อย แทนแม่ที่ไม่สามารถออกไปรับจ้างได้ และเป็นห่วงแม่ เนื่องจากที่บ้าน ไม่มีเงินที่จะไปซื้อข้าวกิน บางวันต้องไปขอข้าวที่วัด มาให้แม่กิน เงินไปกินโรงเรียนก็ไม่มี บางวันหากฝนตกก็ต้องพาแม่ไปนอนที่วัดเพราะไม่สามารถจะนอนที่บ้านนอกจากนี้ตนเองอยากเรียน แต่ต้องทนเห็นแม่ทำงานคนเดียวไม่ไหวอีกทั้งแม่ป่วยกระแสะกระแสะ
"ซึ่งหากจบม.3 แล้งคงไม่เรียนต่อเพราะคงไม่มีเงิน ไม่อยากเป็นภาระให้แม่ อีกทั้งอยากรักษาแม่ให้หายจากอาการป่วย แม่จะได้มีชีวิตอยู่ยาวนาน และได้อยู่ กับ หนู"
ขณะที่ นางศรีนวล กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงลูกที่ต้องออกไปรับจ้าง และต้องขาดเรียนแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เคยบอกลูกว่า ต้องการให้ยึดการเรียนไว้ก่อน แต่เขาก็ไม่ฟัง พร้อมกับเดินหนีไปรับจ้างต่อ ก็รู้สึกสงสารลูก โดยเฉพาะเวลาฝนตกฟ้าร้อง เอ๋จะกระโดมากอด เพราะความกลัว โดยฝนจะสาดเข้าไปในบ้านจนนอนไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการช่วยเหลือเด็ก บริจาคได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขาพิจิตร 6100366886 หรือติดต่อนาย แปลก เพ็งยอด ผอโรงเรียนหนองโสนวิทยา 081-0379257