ปัด“หรั่ง”ขายอาวุธสงครามทัพไทย

DSI แถลงโชว์ล่อซื้ออาวุธสงคราม ระบุไม่ใช่ของกองทัพ  เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม “หรั่ง” จำหน่ายอาวุธสงคราม

วันนี้ (19 ก.ค.)  ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายธาริต  เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบปากคำนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ลูกน้องคนสำคัญของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง พร้อมอาวุธสงครามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับทหารล่อซื้อได้จากนายหรั่งเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ จ.ชลบุรี

นายธาริต กล่าวว่า ตามที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ส่วนสืบสวนสะกดรอยร่วมกับกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ติดตามจับกุมนายหรั่งได้  ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิงเอ็ม 79 ไปยังโรงแรมดุสิตธานีจริง เนื่องจากโกรธแค้นแทนเสธ.แดงที่ถูกยิงเสียชีวิต  ซึ่งในวันนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง พนักงานสอบสวนคดีก่อร้ายเข้าสอบปากคำที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า เมื่อต้นเดือน มิ.ย. ได้รับคำสั่งจากอธิบดีดีเอสไอให้จัดทีมสายลับล่อซื้ออาวุธสงคราม เนื่องจากได้รับรายงานข่าวว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกับก่อการร้ายนำอาวุธออกมาจำหน่าย จึงร่วมกับฝ่ายความมั่นคงเข้าไปสอบสวนล่อซื้ออาวุธสงครามจากนายหรั่ง เป็นเงิน 60,000 บาท  โดยทำการล่อซื้อเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นอาวุธสงครามประเภทต่าง ๆ เช่น ปืนอาก้า ปืนเล็กยาว เครื่องยิงลูกระเบิด 40 มม.(เอ็ม 79) ลูกระเบิดขนาด 40 มม.(หัวสีทอง) ลูกระเบิดขนาด 40 มม.(หัวสีดำ) ลูกระเบิดขว้าง 57-89 ไอที กระสุนขนาด 7.62 มม  (เอ็ม 60) กระสุนขนาด 5.56 มม. กระสุน เอเค 47 เป็นต้น

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า เมื่อทำการล่อซื้อสำเร็จก็ตั้งใจขยายผลจับกุมเพื่อนรวมขบวนการ แต่ทีมงานนายหรั่งไหวตัวทัน เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่จึงต้องหยุดปฏิบัติการ ทั้งนี้ การล่อซื้อดังกล่าวทำให้ทราบว่ามีขบวนการใช้อาวุธสงครามในช่วงเดือนเม.ย.จริง โดยเบื้องต้นอาวุธที่ล่อซื้อได้ส่วนใหญ่ไม่น่าจะใช่ของทางการไทย แต่ต้องนำไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง เพื่อหาสถานที่ผลิตและนำเข้าประเทศไทยได้อย่างไร ทั้งนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะแจ้งข้อหาจำหน่ายอาวุธสงครามกับนายหรั่งเพิ่ม

นายธาริต กล่าวถึงกรณีที่นายคารม พลทะกลางทนายความของกลุ่มนปช.ระบุว่าดีเอสไอไม่ประสงค์จะสอบปากคำพยานฝ่ายผู้ต้องหา และจะไม่นำพยานมาให้ปากคำในชั้นการสอบสวนของดีเอสไอว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมเปิดโอกาสให้พยานผู้ต้องหาทุกคนเขาชี้แจง โดยวันนี้ตนจะทำหนังสือแจ้งยืนยันไปยังนายคารมและพยานทั้งหมดโดยตรงว่า จะสอบปากคำให้ แต่ถ้าไม่ต้องการให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษสอบปากคำจะไปให้การในชั้นศาลก็ได้.