สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศแอฟริกาใต้จบลง แฟนบอลชาวอังกฤษกว่า 25,000 คน
ที่เดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว ได้รับคำเตือนให้เข้ารับการตรวจเช็คสุขภาพโดยด่วน เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ "เอชไอวี" ที่เกิดจากการมีเซ็กซ์โดยที่ขาดการป้องกัน ระหว่างการเดินทางไปที่นั่น โดยพบว่าประเทศแอฟริกาใต้ มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีกว่า 6 ล้านคน จากผลการสำรวจพบว่า สองในสามของกลุ่มเพศชาย และหนึ่งในสี่ของเพศหญิงของผู้ติดเชื้อ มีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก นอกจากนั้นยังพบว่ากลุ่มวัยรุ่น และวัยทำงาน เกือบหนึ่งในห้าของแอฟริกาใต้ได้รับเชื้อไวรัสเอชไอวี โดยบางพื้นที่มีโอกาสเสี่ยงสูงถึงหนึ่งในสาม
โดย นายแพทย์สตีฟ เทย์เลอร์ ที่ปรึกษาด้านเอชไอวีและสุขภาพทางเพศ แห่งโรงพยาบาลฮาร์ตแลนด์ส เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ
กล่าวว่า ในช่วงระหว่างที่มีการเฉลิมฉลองนั้น ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกันนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้ารับการตรวจ แม้ว่าในปัจจุบัน เราจะมีความระแวดระวังในเรื่องนี้มากกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังพบว่าผู้คนยังคงเพิกเฉยในการนำเรื่องการป้องกันไปใช้ในทางปฏิบัติจริงๆ ซึ่งทำให้ช่วงวันหยุด ผู้คนจะรู้สึกผ่อนคลาย พักผ่อน อาบแดด และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้โอกาสเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกันนั้นเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้นกลุ่มผู้ที่เดินทางไปพักผ่อน ควรจะเตรียมการป้องกันล่วงหน้า โดยการพกถุงยางอนามัยไปด้วยทุกครั้ง และเข้ารับการตรวจเชื้อโรคในทันที เพื่อให้ระดับการกระจายของเชื้ออยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
โดยเขาริเริ่มให้มีโครงการ "เบียร์ ก็อกเกิ้ล จอห์นนี่"
เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนที่คาดว่าตนเองอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี เข้ารับการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อการมีสุขภาพทางเพศที่ดียิ่งขึ้น โดยเขามีแผนการที่จะขยายโครงการนี้ไปยังคลีนิคต่างๆทั่วประเทศอังกฤษ ด้วยความสนับสนุนจากสมาคมเอชไอวีและสุขภาพทางเพศแห่งอังกฤษ เพื่อทำการเผยแพร่ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันโรคดังกล่าว