ไข้เลือดออกระบาดหนักอีสานล่าง โคราชหนักสุด

นายแพทย์วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา

ระบุถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2553 ถึง วันที่ 16 ก.ค. 2553 พบว่าจังหวัดนครราชสีมา พบผู้ป่วยที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วทั้งหมด 1,515  ราย เสียชีวิต  3 ราย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.สีคิ้ว 1 ราย ,  อ.ครบุรี 1 ราย และที่ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง 1 ราย   ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในช่วงฤดูฝนจะมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกมากขึ้นกว่าเดิม

โดยขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ เจ้าหน้าที่สถานีอนามัย รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทุกชุมชน

ลงพื้นที่ออกตรวจร่างกายให้ชาวบ้าน และเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่เกิดการระบาดซ้ำซาก อย่างเช่น อ.พระทองคำ อ.แก้งสนามนาง อ.ขามสะแกแสง ซึ่งมีการระบาดของโรคไข้เลือดออกเป็นจำนวนมากในทุกปี รวมถึงในพื้นที่ที่พบว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิต เช่นที่ อ.สีคิ้ว , อ.เมือง และ อ.ครบุรี  และแหล่งชุมชนอย่างเช่น อ.เมือง นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง เทศบาล และอบต.ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นควันกำจัดยุงลายให้กับชาวบ้านให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมาโดยด่วนแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่มีการดื้อสารเคมีของยุงลายนั้น ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่พบว่ามีการยุงลายดื้อยาแต่อย่างใด อีกทั้งยังไม่พบว่ามีการกลายพันธุ์ของเชื้อไข้เลือดออกด้วย 

ทั้งนี้จากรายงานของกองระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขเขต14 ซึ่งดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย

นครราชสีมา , ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ และสุรินทร์ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 53 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกรวมทั้งสิ้น 3,802 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย แยกเป็น นครราชสีมา 1,515 ราย  เสียชีวิต 3 ราย , บุรีรัมย์ 930 ราย เสียชีวิต 1 ราย , สุรินทร์  1,102 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต และชัยภูมิ 255 ราย  ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต  คิดเป็นอัตราการป่วย 57.42 ต่อแสนประชากร