รองอธิบดีกรมการแพทย์ รับไทยติดยาบ้ามากที่สุดในโลก แฉอายุต่ำสุด 12 ขวบ จับมือมหาวิทยาลัยเยล หาช่องแก้
วันนี้ (14 ก.ค.) นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
สถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันพบว่า มีการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น โดยจากข้อมูลผู้เสพและติดยาเสพติดที่เข้ารับการบำบัด อันดับ 1 ได้แก่ ยาบ้า ตามมาด้วยกัญชาและยาไอซ์ ซึ่งหลังมีการปราบปรามยาเสพติดอย่างหนัก ทำให้มีผู้เสพบางส่วนหันไปดื่มเหล้าแทน จนส่งผลให้จำนวนผู้ติดสุราเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีผู้ป่วยมากถึง 1,094 ราย ทั้งจากข้อมูลของผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติดในปีที่ผ่านมาพบว่ามีประมาณ 1.2 แสนคน แต่ในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 53 มีผู้เข้ารับการบำบัดแล้วเกือบ 1 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดยาบ้า และยังพบว่าอายุของผู้เสพและติดส่วนใหญ่กว่า 70 % ศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยม 1 จนถึงอุดมศึกษา
สำหรับสาเหตุที่ยาบ้าแพร่ระบาดมากส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะบ้านเมืองเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ทำให้เจ้าหน้าที่มีภารกิจมาก จนผู้ขายฉวยโอกาสดังกล่าว
รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเยล สหรัฐฯ ทำการวิจัยหายีนต์ในผู้ติดยาบ้าด้วยวิธีการเจาะเลือด เพื่อดูว่ายีนต์หรือโครโมโซมมีส่วนสัมพันธ์กับการติดยาหรือไม่ ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้วยังมีการวิจัยในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สหรัฐฯมาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา แต่ที่เลือกประเทศไทย เพราะไทยป็นประเทศที่มีการใช้ยาบ้ามากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศและมากที่สุดในโลก ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำวิจัยในระยะที่ 2 ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานจะสามารถสรุปผลได้
ด้าน นพ.วิโรจน์ วีรชัย ผอ.สถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงวัยรุ่น
เพราะพบว่ามีสถิติผู้ที่เสพอายุน้อยลง โดยเฉพาะยาบ้ามีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้เสพที่มีอายุน้อยสุดที่เข้ารับการบำบัดคือ 12 ปี และจากข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า เด็กไทยอายุน้อยเสพยาเสพติดเพิ่มขึ้นถึง 10%.