เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ในปีนี้ผลผลิตทางการเกษตรโดยรวมของจังหวัดยะลา
จะออกสู่ตลาดสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งผลไม้ที่มีมากที่สุด คือ ทุเรียน รองลงมา คือ ลองกอง มังคุด แต่สิ่งที่จังหวัดยะลากังวลมากที่สุด คือ ผลผลิตทางด้านทุเรียน ซึ่งคาดว่า จะออกสู่ตลาดในเดือนสิงหาคม – กันยายน 2553 นี้ โดยคาดการณ์ว่า จะมีทุเรียนออกสู่ตลาดวันละไม่ต่ำกว่า 200 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต โดยขณะนี้ทางจังหวัดได้ประสานของบประมาณไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้จัดสรรงบงบประมาณมาดำเนินการตั้งจุดรับซื้อ และพยุงราคาสินค้า และเพื่อเป็นการระบายผลผลิตทุเรียนที่มีวันละ 200 ตัน ออกไปสู่ตลาดให้มากที่สุด
“ล่าสุดทางจังหวัดกำลังติดต่อนักธุรกิจด้านผลไม้ส่งออก จากกรุงเทพมหานคร และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ทำธุรกิจส่งออกทุเรียนไปจำหน่ายยังประเทศจีน ให้มารับซื้อในจังหวัดยะลา พร้อมทั้งได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดยะลา ,เกษตรจังหวัด , ชมรมสวนทุเรียน , การค้าภายในจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด เพื่อหารือร่วมกันในเรื่องดังกล่าว โดยผลผลิตทุเรียนของจังหวัดยะลาส่วนใหญ่ เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ซึ่งเป็นที่ต้องการของประเทศจีน หากการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ก็จะเป็นการระบายสินค้าทุเรียนออกไปยังประเทศจีนได้มากที่สุด” ผวจ.ยะลา กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเจรจากับนักธุรกิจดังกล่าว จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ จะรู้ผลภายใน 2 สัปดาห์นี้ และหากมีการตกลงจะมารับซื้อทางจังหวัดจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของสถานที่ในการรับซื้อ สำหรับผลผลิตทุเรียนที่จะออกสู่ตลาดในปีนี้คาดว่า ไม่ต่ำกว่า 48,000 ตัน ส่วนผลไม้ประเภทอื่น อาทิ ลองกอง และมังคุด ไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากปีนี้อากาศร้อนส่งผลให้ผลผลิตลดลง ซึ่งน่าจะเพียงพอแก่การจำหน่ายภายในประเทศ และในท้องถิ่น



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว