บ้านน้ำเค็มยังตื่นภัยพิบัติ แห่อาศัยบ้านเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)

รองนายก อบต.บางม่วง เผยชาวบ้านน้ำเค็มแห่ขออาศัยในบ้านเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก เต็ม 80 หลัง ด้านชาวบ้านเผยกังวลช่วงกลางคืน กลัวจะหนีไม่ทัน จึงต้องไปอาศัยนอกพื้นที่ ส่วนกลางวันเข้าทำงานในหมู่บ้านปกติ...

เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีชาวบ้านน้ำเค็มหวาดผวากับข่าวภัยพิบัติหลังจากพบว่ามีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะชาวบ้านน้ำเค็ม หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นั้น ล่าสุด นายประทีป บุญแสวง รองนายก อบต.บางม่วง ได้เข้าตรวจสอบเอกสารรายชื่อผู้ที่ยื่นคำร้องขอพักอาศัยในบ้านเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก ซึ่งเป็นบ้านพักชั่วคราวโดยเปิดโอกาสให้ทางชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติ ได้พักโดยมีชาวบ้านได้ส่งคำขอและพิจารณาแล้วจำนวน 80 หลังคาเรือน ครบตามจำนวนบ้านพักที่มีอยู่ 80 หลังแล้ว

โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ในช่วงกลางวันจะเดินทางไปทำงานในสถานที่ต่างๆรวมถึงภายใน หมู่บ้านน้ำเค็มด้วย และจะกลับมาพักอาศัยในบ้านพักชั่วคราวช่วงกลางคืน เนื่องจากชาวบ้านในหมู่บ้านน้ำเค็มหวาดกลัวภัยพิบัติที่ทราบจากนักวิชาการ โดยเฉพาะนายสมิทธ ธรรมสโรช ที่ปรึกษาศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ที่ออกมาเตือนหลายหลายครั้ง

นายประทีป รองนายก อบต.บางม่วง กล่าวว่า ขณะนี้ทาง อบต.บางม่วงได้รับเอกสารคำขอพักชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.-21 ก.ย. เนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านในหมู่บ้านน้ำเค็มหวาดกลัวภัยพิบัติจะเกิดขึ้นจึงได้มายื่นคำขอใช้บ้านพักชั่วคราวกับทาง อบต.บางม่วง โดยตนได้ชี้แจงให้ชาวบ้านรับฟังแล้วว่าบ้านพักดังกล่าวเป็นเพียงบ้านพักชั่วคราว แต่ก็เป็นสิทธิ์ของชาวบ้านที่จะยื่นเอกสารเพื่อขอพักชั่วคราวจากเหตุผลของชาวบ้านในเรื่องของความวิตกการเกิดภัยธรรมชาติ ซึ่ง อบต.บางม่วง พิจารณาแล้วเห็นว่าชาวบ้านในกลุ่มที่เสี่ยงมากเช่นครัวเรือนที่อยู่ใกล้กับ ทะเลก็จะพิจาณาเป็นกรณีพิเศษและอนุมัติให้  โดยมีชาวบ้านน้ำเค็มได้มายื่นคำขอบ้านพักชั่วคราวไว้มากกว่า 80 ครัวเรือน ซึ่งทาง อบต.คัดเลือกให้พอดีกับจำนวนบ้านพักชั่วคราว

ด้านนางบุญเรือน เพชรหนองชุม อายุ 66 ปี ชาวบ้านน้ำเค็ม ที่พักอาศัยอยู่หมู่บ้านเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก กล่าวว่า ขนทรัพย์สินที่จำเป็นมาอาศัยอยู่ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยอาศัยอยู่ในบ้านพักตลอดเวลาส่วนสามีและลูกๆ ช่วงกลางวันได้ออกไปทำงานใน หมู่บ้านน้ำเค็มก็รู้สึกเป็นห่วงสามีและลูกๆ อยู่เหมือนกันว่าหากเกิดเหตุสึนามิขึ้นมาไม่รู้ว่าจะหนีกันออกมาทันหรือไม่

เช่นเดียวกับนายจรัญ แสงขวัญ อายุ 63 ปี อาชีพค้าขายในหมู่บ้านน้ำเค็ม ที่ยังคงขายของอยู่ภายในหมู่บ้านน้ำเค็มตามปกติ แต่ตอนกลางคืนตนกับครอบครัวจะเข้ามาอาศัยในหมู่บ้านเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก เพราะหากเกิดเหตุในช่วงกลางวันคิดว่าสามารถหนีได้ทันแต่หากเกิดช่วงกลางคืน โดยเฉพาะช่วงที่นอนหลับก็เป็นเรื่องลำบากที่จะอพยพออกมาได้ทัน.