พาณิชย์เต้นเร่งงัดมาตรการสกัด น้ำอัดลม-นมข้น-น้ำผลไม้จ่อคิว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นางพรทิวา นาคาศัย รมว. พาณิชย์
มีนโยบายให้กรมการค้าภายใน ไปเร่งศึกษาผลกระทบจากการที่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย เนื้อหมูและสินค้าอื่นที่มีราคาสูง จนอาจกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าชนิดอื่นตามมา เพื่อให้หาแนวทางดูแลไม่ให้สินค้าในกลุ่มเหล่านี้ปรับราคาสูงขึ้น โดยอาจมีการเรียกผู้ผลิตสินค้าที่ประสบปัญหาต้นทุนสูงขึ้นมาหารือและขอความร่วมมือ เพื่อไม่ให้ปรับขึ้น ราคา เนื่องจากจะทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน
“ตอนนี้มีสินค้าหลายชนิดที่ใช้น้ำตาลทราย ไข่ไก่ เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับผลิตอาหาร เช่น น้ำอัดลม นมข้นหวาน น้ำผลไม้ เครื่องดื่มทางเลือก ขนมขบเคี้ยว ขนมปัง อาหารสำเร็จรูป ซึ่งกลุ่มเหล่านี้กระทรวงฯ ต้องเข้าไปช่วยดูว่าผู้ผลิตได้ผลกระทบแค่ไหน เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ และขอความร่วมมือไม่ให้ขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้เพราะจะเป็นภาระแก่ชาวบ้าน อย่างกรณีน้ำตาลทรายแพง กระทรวงฯ พยายามหาทางลดต้นทุน ด้วยการขอให้รัฐบาลทบทวนลดราคาขายปลีก หลังจากมีการใช้หนี้กองทุนอ้อยและน้ำตาลหมด”
ทั้งนี้การปรับขึ้นของน้ำตาลทราย และไข่ไก่ แม้ไม่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อโดยตรง แต่จำเป็นต้องดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด
เพราะอาจส่งผลต่อสินค้าตัวอื่นให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นได้ เช่น ไข่ไก่ ที่มีสัดส่วนกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ 0.56% แต่ส่งผลโดยตรงต่ออาหารสำเร็จรูปที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อถึง 4.35% น้ำตาลทราย ที่มีผลต่อผู้บริโภคโดยตรงและสินค้าหลายชนิด ทั้งน้ำอัดลม น้ำผลไม้ นมข้นหวาน ซึ่งสินค้าหมวดอาหาร กระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องเข้าไปดูแลเป็นพิเศษในครึ่งปีหลัง เพราะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อได้
“เงินเฟ้อเดือนล่าสุดที่สูงอยู่ในระดับ 3.3% ถือว่าปรับตัวสูงขึ้นอยู่ในอัตราปกติ หลังจากที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้แนวโน้มครึ่งปีหลังเงินเฟ้อน่าจะทรงตัวอยู่ในระดับเกิน 3.0% เล็กน้อย ทำให้เป้าหมายทั้งปีคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 3.0-3.5% ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมที่พาณิชย์ตั้งไว้ แต่กระทรวงฯ ไม่ประมาทจะคอยติดตามดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด”
ส่วนการรับเรื่องร้องเรียนสินค้าราคาแพงขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้เดือดร้อนตามหมู่บ้าน หรือจุดที่ไกลจากเขตตลาดสด
เพราะจากการลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าไข่ไก่ ตามตลาดสด หรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ยังมีราคาอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เช่น ไข่หน้าฟาร์มขายฟองละ 2.80 บาท ขณะที่ร้านในตลาดบางแคขายไข่เบอร์ 2 ราคาฟอง ละ 3.20-3.30 บาท ไม่ได้สูงถึง 4-5 บาทแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ร้านค้าที่ขายสินค้าราคาแพงอาจเป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีการซื้อต่อกันมาหลายช่วงจนต้องบวกกำไรสูงขึ้น ตรงจุดนี้กระทรวงฯ เพิ่มความเข้มงวด ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจช่วงการรับซื้อระหว่างยี่ปั๊ว ซาปั๊ว และร้านค้าปลีกไม่ให้ขายกำไรเกินจริง.