ผอ.เขื่อนลำตะคอง คอตกแม้ฝนตกหนักแต่ปริมาณน้ำในเขื่อนยังไม่เพิ่ม เตือนพี่น้องเขตเทศบาลนครโคราชเตรียมรับมือน้ำประปาขาด ขณะที่กรมป้องกันภัยพบปริมาตรน้ำ 13 อ่างยังน่าห่วง.....
เมื่อวันที่ 3 ก.ค.นายจักรกฤช แจ้งกรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า
ขณะนี้สถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคอง ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ขณะนี้มีปริมาณน้ำเหลือเพียง 78 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 25 % ของความจุเขื่อนทั้งหมด แต่ปริมาณน้ำที่จะใช้ได้จริงซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถระบายน้ำได้นั้นเหลือ อยู่ไม่ถึง 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้เขื่อนลำตะคองเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคหลักของ ประชาชนในพื้นที่ 5 อำเภอของนครราชสีมา และเป็นแหล่งน้ำดิบเพียงแห่งเดียวในการผลิตน้ำประปาหล่อเลี้ยงประชาชนในเขต เทศบาลนครนครราชสีมา โดยปัจจุบันทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองได้มีการวางแผนระบายน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคเพียงอย่างเดียววันละ 345,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมกับงดระบายน้ำเพื่อการเกษตรทั้งหมดแล้ว เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนลำตะคองลดลงอย่างต่อเนื่อง และเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำอุปโภคบริโภคของประชาชนชาวนครราชสีมาในอนาคตอันใกล้นี้
นายจักรกฤช กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีฝนตกลงมาในพื้นที่นครราชสีมา
แต่ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมานั้นไม่ได้ตกในพื้นที่เหนือเขื่อน แต่กลับไปตกที่บริเวณท้ายเขื่อน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำตะคองยังคงน้อยมาก ขณะที่การระบายน้ำของเขื่อนลำตะคองจะต้องระบายน้ำออกถึงวันละ 345,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปน้ำในเขื่อนลำตะคองจะเหลือใช้ถึง เพียงแค่เดือนธันวาคม 2553 นี้เท่านั้นน้ำก็จะหมดเขื่อน ทำให้ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองต้องเตรียมแผนจัดสรรการใช้น้ำไว้ รองรับ โดยหากปลายเดือน ก.ค.2553 เป็นต้นไปยังไม่มีฝนตกลงมาบริเวณพื้นที่เหนือเขื่อนลำตะคอง ทางเขื่อนจะลดการระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคลงอีก 50 % คือจากเดิมวันละ 345,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือเพียงวันละ 170,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาของประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา จึงอยากฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนชาวนครราชสีมาให้เตรียมรับมือและ ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้
ขณะที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 31,828 ล้านลูกบาศก์เมตร
คิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด น้อยกว่าปี 2552 จำนวน 7,470 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 4,054 และ 3,227 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จำนวน 33 อ่าง 13 อ่างที่ปริมาตรน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุ โดยเฉพาะที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และขุนด่านปราการชล ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัย 27 จังหวัด ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด และภาคกลาง 4 จังหวัด รวม 204 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อน 4,303,167 คน มีพื้นที่การเกษตรเสียหาย รวม 2,198,096 ไร่ ขณะที่ สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ออกปฏิบัติการแล้ว 113 วัน ในพื้นที่ 63 จังหวัด.
ฝนตกน้ำไม่เพิ่ม วิกฤตหนัก 13อ่างน่าห่วง
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!