เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
เปิดเผยว่า สดร.ได้ตั้งจุดสังเกตปรากฏการณ์จันทรุปราคาบริเวณจุดชมวิว อุทยานดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เวลา 17.00-20.30 น. โดยมีชาวเชียงใหม่และผู้สนใจร่วมชมปรากฏการณ์ดังกล่าว รวมทั้งถ่ายภาพผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่แบบต่าง ๆ ที่ สดร.นำมาให้บริการเป็นจำนวนมาก พร้อมถ่ายทอดสดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วนผ่านอินเทอร์เน็ตที่ www.narit.or.th ทั้งนี้บริเวณจุดชมวิวอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แม้จะมีปริมาณเมฆค่อนข้างมาก แต่สามารถสังเกตเห็นดวงจันทร์ขึ้นทางขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลา 19.21 น. โดยขณะนั้นดวงจันทร์ถูกเงาของโลกไปแล้วมากกว่าร้อยละ 50 และกำลังเคลื่อนที่ออกจากเงามืดของโลก หลังจากนั้นดวงจันทร์ก็มีเมฆบัง จนถึงเวลาประมาณ 19.44 น. เมฆก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่ออกไป และสามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวสิ้นสุดและดวงจันทร์กลับมาเต็มดวงอีกครั้งในเวลาประมาณ 20.00 น. โดยตำแหน่งของดวงจันทร์จะอยู่ที่ประมาณ 30 องศาจากขอบฟ้า
สำหรับความสำคัญของจันทรุปราคาครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์จันทรุปราคา ลำดับที่ 57 ของชุดซารอสหรือตระกูลที่ 120 ซึ่ง เป็นชุดซารอสเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งพระองค์ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรปรากฏการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงบริเวณพระที่นั่งเย็น ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี เมื่อวันที่ 10-11 ธ.ค. 2228 หรือเมื่อ 325 ปีก่อน ทั้งนี้หลังจากการเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคา 15 วันต่อมาจะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเสมอ ซึ่งในวันที่ 11 ก.ค.นี้ หรือตรงกับวันที่ 12 ก.ค. เวลา 00.10 น. ตามเวลาในประเทศไทย จะเกิดปรากฎการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง เห็นได้ทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ในประเทศไทย ส่วนจันทรุปราคาครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปีจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. 2553 เป็นจันทรุปราคาแบบเต็มดวง แต่ประเทศไทยไม่สามารถเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ ส่วนปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งต่อไป ที่สามารถสังเกตเห็นได้ในประเทศไทย จะเป็นจันทรุปราคาแบบเต็มดวง ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธ.ค. 2554 เวลาประมาณ 19.30-23.30 น.