ประจวบฯ ตื่นสึนามิแห่ถามกรมอุตุฯ-งดออกเรือ

คนประจวบฯ ตื่นข่าวลือ สึนามิจะซัดถล่มฝั่ง 12 มิ.ย. นี้ แห่โทรถามอุตุฯ-งดออกเรือต้องแจงวุ่น ชาวบ้านอ้างต้นตอมาจาก จนท.รัฐบอก...

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. นายเรวัฒน์ เครือแดง หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า

ได้รับสายโทรศัพท์จากประชาชนจำนวนมากสอบถามถึง กระแสข่าวจะมีคลื่นยักษ์สึนามิพัดเข้าฝั่งอ่าวไทยในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ทำให้ชาวบ้านและชาวประมงหวาดผวาเตรียมขนข้าวของไว้ในที่ปลอดภัย จึงชี้แจงกลับไปว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะเกิดสึนามิ ทั้งนี้ การจะเกิดคลื่นยักษ์ได้นั้นต้องมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเกิดในท้องทะเลขนาดมากกว่า 7.0 ริกเตอร์ ซึ่งในประเทศไทยไม่มีความเสี่ยงจะเกิดแผ่นดินไหวขนาดนี้ แต่หากเกิดแผ่นดินไหวแถบอ่าวไทยดังเช่นเป็นข่าว เช่น ที่ฟิลิปปินส์ หรือ อินโดนีเซีย ความรุนแรงของคลื่นทะเลจะไม่สูงเท่าเคยเกิดเมื่อปี 2547 โดยฝั่งอันดามันคลื่นอาจสูงเพียง 1-2 เมตร เนื่องความสภาพภูมิศาสตร์ที่มีแถวเขาและอ่าวเป็นตัวลดความแรงของคลื่น และต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าคลื่นทะเลจะเดินทางถึงชายฝั่งอ่าวไทย

นายเรวัฒน์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีมาตรการเตรียมพร้อมในการแจ้งเตือนเหตุสึนามิอยู่แล้ว จึงไม่น่าวิตกกังวล

ส่วนกรณีชาวบ้านลือกันไปต่างๆ นั้น จะเป็นเรื่องของความเชื่อ ประกอบกับด้านดาราศาสตร์ที่ดาวในจักรวาลเรียงตัวเป็นแนวระนาบเดียวกัน ประชาชนส่วนหนึ่งจึงเข้าใจผิดจะเกิดแรงโน้มถ่วงจนเกิดคลื่นยักษ์ได้

ด้าน นายเผชิญ เกตุแก้ว ชาวประมงอ่าวน้อย กล่าวว่า ได้ยินข่าวจากชาวบ้านเล่าลือกัน

ขณะนี้ชาวประมงอ่าวน้อยและคลองวาฬหยุดออกทะเลเพื่อรอดูกระแสคลื่น พร้อมให้ชาวบ้านเตรียมความพร้อมเรื่องเอกสารประจำตัวที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น ยังไม่มีใครในหมู่บ้านขนสิ่งของหนี แต่ได้เฝ้าระวังไว้ ซึ่งธรรมชาติชาวประมงจะเกตอากาศ คลื่น ลมและน้ำทะเลว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่

นายเผชิญ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีประสบการณ์เรียนรู้เรื่องสึนามิอยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วง

ส่วนเหตุที่ชาวบ้านเชื่อว่าจะมีคลื่นยักษ์นั้น ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางหน่วยบอกชาวบ้านในตลาดจะมีสึนามิเข้าชายฝั่งอ่าว ไทยจนเกิดอาการหวาดผวาและพูดกันปากต่อปาก ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าจะไม่เกิดคลื่นยักษ์ ขณะที่มีส่วนหนึ่งไปอธิฐานต่อศาลเจ้าที่อยู่คู่กับชาวประมงว่าจะไม่มีเภทภัย เกิดขึ้น

ขณะที่นพ.สุทธิพงษ์ ศิริมัย รอง ผอ.โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า โรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ประจวบคีรีขันธ์

ยังไม่เคยมีการซ้อมแผนอพยพหรือหนีภัยสึนามิอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจ จนนำมาสู่ความหวาดวิตกไปต่างๆ นา มีเพียงข้อแนะนำที่กรมการแพทย์ให้แนวทางการปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่หากเกิด อุบัติภัยเท่านั้น ไม่ได้มีแผนอพยพอย่างที่ชาวบ้านเข้าใจแต่อย่างใด.