อย.เตรียมกระชับพื้นที่แหล่งขายยาลดน้ำหนักเถื่อน ชี้ 5 แหล่งเคอร์ฟิวอันตราย ส่วนเรื่องเว็บไซต์รับปราบลำบาก ด้านจิตแพทย์แนะวิธีสังเกตุลูกติดยาลดน้ำหนัก และวิธีภูมิใจแบบไม่ต้องเป็นพริตตี้ง...
สืบเนื่องจากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.โชติมา จินตนาผล นักเรียน ม.6 ของโรงเรียนวัดราชาธิวาส ที่ฝันอยากเป็นพริตตี้
โดยซื้อยาลดความอ้วน “แอล คาร์นิทีน พลัส” ซึ่งเป็นประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านเว็บไซต์ไปกินเองจนเกิดการเสียชีวิต จนผู้เป็นพ่อต้องเดินทางเข้าไปร้องกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมกับประกาศเอาเรื่องเว็บไซต์ขายยาลดความอ้วนดังกล่าว
ความคืบหน้าเรื่องนี้ น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขกล่าวกับ ไทยรัฐออนไลน์ ยอมรับว่า ในส่วนของการจัดการหาต้นต่อกับเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ยาก แต่ถ้าจัดการกับเว็บไซต์ที่จำหน่ายยาลดน้ำหนักที่ระบาดในอินเทอร์เน็ตนั้นยากมากๆ
“ปัจจุบันโลกมันเปิดกว้างมาก นอกจากตามโลกไซเบอร์มีการโฆษณายาเถื่อนอยู่เยอะ ไม่เพียงยาลดน้ำหนัก มันยังมียาปลุกเซ็กส์ ยาทำแท้ง แม้กระทั่งอาหารที่อ้างว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอมมากมาย แต่ก็ใช่ว่ามีแล้วมันจะขายทุกคนได้ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่จะเด็กเยาวชนมากกว่าที่ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แต่ก็ชอบลอง ชอบความท้าทาย ทั้งการสั่งชื่อผ่านอินเทอร์เน็ตก็ซื้อง่ายๆ ไม่ต้องมีใครมายุ่งเกี่ยว ตรงนี้โอกาสพลาดได้ ก็เหมือนที่เคยมีข่าวเด็กไปกินแก้ไอแล้วบอกหุ่นดี นี่คือปัญหาหลักที่ทำให้เว็บขายยาพวกนี้เฟื่องฟู”
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวอีกว่า นอกจากความน่ากลัวของเว็บไซต์ขายยาลดน้ำหนักเถื่อนที่คร่าชีวิต น้องโชติ มาแล้ว ปัจจุบันสิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องการโฆษณากลุ่มยาลดน้ำหนักแฝง ที่มีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่โอ้อวดเกินความจริง คือกินแล้วก็ไม่มีฤทธิ์เดช แต่อวดอ้างว่าสามารถลดน้ำหนักได้ อีกกลุ่มหนึ่งก็เติมสารต่างๆ ที่อยากให้เกิด โดยจะแฝงด้วยการใส่ยาลดน้ำหนักลงไป ซึ่งบริโภคไปมากๆ จะเป็นอันตรายถึงชีวิต
“ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ โดยอ้างว่ากินแล้วลดน้ำหนักได้มาก ซึ่งจริงๆ อาจจะได้ผลเล็กน้อยมาก แต่โฆษณาให้เห็นภาพใหญ่โต อาจจะเห็นผลแค่ 1 ใน 10 แต่ที่ลดได้อาจจะเป็นเพราะคุณควบคุมอาหาร ออกกำลังกายเองมันเป็นจิตวิทยาการตลาดล้วนๆ แล้วก็ใส่ความเชื่อของคนลงไป ซึ่งถ้าเทียบกับที่ผ่านมา ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้นเยอะมากๆ เพราะตลอดระยะเวลา 4-5 เดือนที่ผ่านมา อย.จับพวกยาลดน้ำหนักเถื่อนตามเว็บไซต์ได้เยอะมาก”
อย.กระชับพื้นที่ 5 แหล่งขายยาลดน้ำหนักเถื่อน
สำหรับสถานที่ได้รับแจ้งว่ามีการขายยาลดน้ำหนักที่อันตรายมากที่สุด นอกจากตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังกลางเมือง-ชานเมืองแล้ว
แถวหน้ารามคำแหง ฝั่งธนฯ ห้างดังย่านปทุมวัน นนทบุรี สมุทรปราการ เป็นต้น ที่ผลิตหรือนำเข้ายากพวกนี้มาจากต่างประเทศก็ได้รับแจ้งว่ามียาเถื่อนเหล่านี้จำหน่ายมากมาย ซึ่งในกรณีนี้ร้านที่รับยากพวกนี้มาจะมีความผิด โดยหากตรวจสอบย้อนหลังไปไป 6 เดือน แล้วเจอประวัติว่ามีการจำหน่ายยาลดน้ำหนักเถื่อน หรือผลิตภัณฑ์ไม่มี อย. เครื่องมือแพทย์ อาหารเสริม เครื่องสำอางแบบไม่ได้รับอนุญาตก็ต้องยอมรับผลกรรมกันไป ขอเตือนคนที่กระทำความผิดว่าให้ระวัง อีกไม่นานเราจะเจอกัน
“เมื่อก่อนเรามีปัญหาเรื่องการทลายแหล่งร้านจำหน่ายจับร้านขายยาลดน้ำหนักในห้างมากๆ เนื่องจากพวกนี้จมูกไว เด่นๆก็ หน้าราม วงเวียนใหญ่ นนทบุรี สมุทรปราการ หรืออย่างพวกศูนย์การค้าก็ยังมีเลยมันไวมาก แต่หลังจากที่ขอความร่วมมือจากห้าง จากที่เคยมีการขายยากันตามบูธรถเข็น เปิดร้านขายเป็นล่ำเป็นสัน ทางห้างก็เข้าใจ แต่สิ่งที่น่ากลัวตอนนี้ก็คือการขายยาลดน้ำหนัก ลงไปที่ขายกันที่ถนน หรือตามตลาดนัดที่ใหญ่ๆ ซึ่ง อย.ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสด้วย”
ท่วา ปัจจุบันสิ่งที่น่ากลัวกว่ายาลดน้ำหนักเถื่อน ก็คือพวกกลุ่มอาหารเสริม กาแฟเถื่อนที่แอบเติมสารพวกนี้นำเข้ามาโดยผู้บริโภคไม่เท่าทัน
“อย.ติดตามเก็บตัวอย่างสินค้าตามท้องตลาดที่อ้างว่าลดน้ำหนักได้มาโดยตลอดเพื่อทำการทดสอบ และเมื่อเจอความผิดปกติก็จะทำการดำเนินคดีได้ ซึ่งโทษจะหนักมากๆ อาจโดนจำคุก อย่างไรก็ดี แนะนำว่าก่อนจะบริโภคอะไร ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอาหารเสริม กาแฟ หรือสิ่งที่อ้างว่าบริโภคแล้วลดน้ำหนักได้ก็อย่าไปหลงเชื่อง่ายๆ ถ้าไม่แน่ใจ สงสัย หรือชัดเจนว่าหลอกหลวงต้องแจ้งมาได้ที่ สายด่วน อย. 1556 ที่สำคัญก็อยากจะเตือนคนที่ทำผิดกฎหมายต้องระวังตัวไว้ด้วย เพราะโทษหนัก รวมไปถึงพวกที่รับมาจำหน่ายด้วยเพราะมีความผิดพอๆ กับคนผลิตเลยทีเดียว”
"น้องมิมี่" สาวพริตตี้สัดส่วนสุดสะบึม ที่ติดยาลดน้ำหนักมาหลายปี บอกว่า ปัจจุบันเพื่อนๆ พริตตี้ 10 คน กินยาลดความอ้วนมากถึง 7 คน ซึ่งแหล่งที่ขึ้นชื่อเรื่องยาลดน้ำหนักก็มีมากมายส่วนใหญ่เป็นแหล่งที่บอกกันปากต่อปาก ส่วนใหญ่จะเป็นแถวฝั่งธนฯ ลาดหญ้า รัชดาฯ หน้ารามฯ นนทบุรี
“ส่วนใหญ่เพื่อนๆ จะรู้กันว่าร้านนี้ดี กินแล้วลดได้เยอะ บางคลินิกก็อ้างว่าเป็นหมอจากจุฬาฯ กินไปน้ำหนักก็ไม่ลด แถมยังหัวใจสั่นแรงเหมือนจะออกมาข้างนอกอีก อย่างไรก็ดีเกิดเรื่องแบบนี้ก็อยากให้จัดการกวาดล้างคลินิคเหล่านี้ เพราะเชื่อว่าคนที่ตายคนต่อไปก็อาจจะเป็นคนใกล้ตัว”
ด้าน นายอารีย์ จิวรรักษ์ ผอ.สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ปัจจุบันขั้นตอนในการบล็อกเว็บไซต์ขายยาลดน้ำหนักปลอมตามอินเทอร์เน็ตเหล่านี้มันยุ่งยากมาก ไม่ใช่อยู่ดีๆ ไอซีทีเปิดไปเจอแล้วสามารถบล็อกได้ดยพลการ
“ปัจจุบันกระทรวงไอซีทีก็ทำการบล็อกเว็บเหล่านี้ไม่เรื่อยๆ ปัจจุบัน อย.แจ้งมากว่า 300 เว็บไซต์ก็ทำการบล็อก แต่เนื่องจากปัจจุบันเว็บไซต์เหล่านี้มีการปรับเปลี่ยนวิธีใหม่ หลังจากบล็อกเขาก็หนีไปใช้วิธีขายใหม่ๆ ขายสร็จเขาก็เปิดเว็บใหม่ แจ้งชื่อใหม่ให้สมาชิกทราบแล้วก็กลับไปขายรูปแบบเดิม ซึ่งควรจะมีหน่วยงานไหมที่ตรวจพบแล้วนำกำลังไปจับกุมคนที่ผิดแล้วมาแถลงข่าวให้คนที่กำลังจะทำหรือทำอยู่เป็นตัวอย่าง”
สำหรับโทษทางกฏหมาย ต่อกรณีนี้คือ โฆษณาเกินจริง และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต้องระวางโทษสูงสุดปรับ 100,000 บาท หรือติดคุก 5 ปี นอกจากนี้ยังต้องระวางโทษเรื่องการโฆษณายาปลอม
“จริงๆมันก็มีไม่กี่คนไม่กี่บริษัทเลย ถ้าจับได้มันก็จะน้อยลงและคนก็กลัว อย.จะต้องเอาจริง ซึ่งจากที่สืบมาผู้ที่ขายก็มีไม่กี่เจ้าเท่านั้น อยู่ที่ภาครัฐจะเอาจริงจับจริงหรือเปล่า” นายอารีย์ กล่าว
ด้าน นายแพทย์ กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลมนารมย์ ตั้งคำถามว่าเหตุใดค่านิยมของวัยรุ่นในปัจจุบันถึงอยากเป็นพริตตี้ว่า ส่วนใหญ่วัยรุ่นที่มีอายุ 13-14 ปี ซึ่งค่านิยมอยากสวยอยากทำงานพริตตี้เป็นนางแบบ เป็นดาราแพร่กระจายไปมากทั้งในโรงเรียนเอกชนและนานาชาติ ดังนั้นเด็กกลุ่มที่มีความฝันแบบนี้ก็จะกลัวความอ้วน ทำให้ไม่ยอมจะกินข้าวเพราะจะได้รูปร่างดี
“ทางการแพทย์เขาเรียกกันว่าโรคกลัวอ้วน (Anorexia Nervosa) ปัจจุบันคนเป็นโรคนี้เยอะมาก คือไม่ใช่ไม่ยอมกินอย่างเดียว บางคนอาจเป็นหนักขนาดมีการล้วงให้อาเจียนเอาอาหารออกมาเพราะกลัวอ้วน มีหลายเคสที่เราเจอถึงขนาดไม่กลืนน้ำลายเพราะกลืนน้ำลายเท่ากับกลืนน้ำลงไป ซึ่งส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้จะมีอาการโรคจิตร่วมอยู่ด้วย บางรายเมื่อกินยาไปแล้วเบื่อน้ำ เบื่ออาหารทำให้หน้ามือเป็นลมล้มฟุบไป บางรายหัวใจวายเฉียบพลันอันตรายมาก”
ทั้งนี้ จิตแพทย์ชื่อดังแนะนำเรื่องวิธีสังเกตุอาการที่กินยาลดความอ้วนไปบอกว่า สังเกตยากมากขนาดพ่อแม่ แม้กระทั่งแพทย์บางรายยังดูไม่ออก
“สิ่งหนึ่งที่อยากจะให้ตระหนักก็คือ เด็กกลุ่มนี้มีอาการแบบนี้จะแกว่งไม่มีหลัก จะเกิดกับพวกที่มีปัญหากับตัวเองขัดแย้งกับตัวเอง และไม่ค่อยจะแฮปปี้กับครอบครัวสักเท่าไหร่ จะเกิดขึ้นมากในพวกที่ชอบบังคับลูกให้กินๆๆ เพราะเห็นว่าลูกผอม ซึ่งการที่ไม่อยากกินอาหารเพราะอยากผอมมันเป็นวิธีการต่อต้านอีกวิธีหนึ่งคือดื้อเงียบแอนตี้พ่อแม่แทน สำหรับวิธีแก้ให้พ่อแม่คิดว่าการไปบังคับเด็กให้อดอาหารยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายกว่าเดิม ทางที่ดีคือไปหาข้อมูลจากเพื่อนๆ ของลูกคุณว่าเป็นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ หมดหรือเปล่า ที่สำคัญแอบเอาตัวอย่างปัสสาวะของลูกไปตรวจเพราะยาพวกนี้มันจะมีสารเสพติดปนอยู่ด้วย หากเข้าข่ายดังกล่าวแนะนำว่าให้รีบพาไปหาหมอเด็ก ควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีของจิตแพทย์ด้วย ทั้งนี้ทางที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักการออกกำลังกาย” จิตแพทย์ชื่อดังกล่าวสรุป.