รักษาการผอ.หวย ไม่ยืนยัน จ่ายใคร-700ล้าน

จากกรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจากการจำหน่ายสลากเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัว หรือหวยบนดินของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พบว่าสำนักงานสลากจ่ายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในช่วง 3 ปีงบประมาณ คือ 2547-2549 เป็นเงินสูงถึง 2,186.68 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการลงบัญชีงบรับจ่ายเงินหวยบนดิน เป็นค่าตอบแทน แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเป็นค่าตอบแทนอะไรและจ่ายให้ใคร ในช่วง 3 ปีงบประมาณที่ผ่านมาเช่นกัน เป็นเงินถึง 789.49 ล้านบาทนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสำนัก งานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ถึงเงินค่าตอบแทนที่ให้กับ สตช. เป็นจำนวนเงิน 2,186.86 ล้านบาทว่า สำนักงานสลากฯ ได้มอบเงินดังกล่าวให้กับสตช.จริง แต่เป็นเงินที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำไปใช้ในการปราบปรามเจ้ามือหวยใต้ดิน ส่วนรายละเอียดของการใช้เงินทั้งหมด ต้องพิจารณาต่อไปว่า ได้นำไปใช้ อย่างไรบ้าง

ขณะที่นายวันชัย สุระกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า คณะกรรมการสลากฯ มีมติชัดเจนที่จะให้ค่าตอบแทนแก่ สตช.ในอัตราร้อยละ 2 ของรายได้จากการจำหน่ายหวยบนดินในแต่ละงวด เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศร่วมมือกันจับกุมเจ้ามือหวยใต้ดิน เพราะวัตถุประสงค์ของหวยบนดินระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องการนำเงินใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่ดี โดยสำนักงานสลากฯ ได้ชี้แจงรายละเอียดให้นายศุภรัตน์รับทราบแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ ที่ให้จ่ายเงินให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มจำหน่ายหวยบนดินเป็นงวดแรก เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2546 ที่ผ่านมา โดยมีมติให้เป็นค่าตอบแทนจำนวนร้อยละ 2 ของยอดขายในแต่ละงวด ในสมัยที่ นายสมใจนึก เองตระกูล ปลัดกระทรวงการคลังสมัยนั้นเป็นประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ และมีนายชัยวัฒน์ พสกภักดี เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามปกติ เหมือนกับการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดการจำหน่ายหวยบนดิน ที่สำนักงานสลากฯมอบให้กับคนเดินโพย และเอเย่นต์ที่จำหน่ายหวยบนดิน และเมื่อต้นปี 2549 คณะกรรมการสลากฯ ได้เห็นชอบลดเงินที่จัดสรรให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลงอีกร้อยละ 0.5 คงเหลือเพียงร้อยละ 1.50 เพื่อนำเงินในส่วนที่ลดลงคือร้อยละ 0.50 ไปเป็นค่าตอบแทนให้กับสายของตำรวจ ในการชี้เบาะแส เพื่อจับกุมเจ้ามือหวยใต้ดินเมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว

ส่วนที่ สตช.วันเดียวกัน พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษก สตช. แถลงข่าวชี้แจงกรณีเงินส่วนแบ่งหวยบนดินของสำนักงานสลากฯ ที่มอบให้ สตช. จำนวนกว่า 2 พันล้านบาทนั้น เป็นการมอบเงินตามมติ ครม.ที่ต้องการให้เป็นค่าตอบแทนตำรวจ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ตำรวจปราบปรามหวยใต้ดิน โดย ครม. มีมติให้แบ่งเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากหวยบนดินจำนวนร้อยละ 2 ของยอดขายหวยบนดินในแต่ละงวด ให้เป็นสวัสดิการตำรวจ และต่อมาก็ลดเหลือร้อยละ 1.5 ซึ่ง สตช.นำเงินจำนวนนี้ไปจัดสรรให้เป็นสวัสดิการตำรวจทั่วประเทศ โดยมีการกันส่วนหนึ่งประมาณร้อยละ 25 จัดเป็นสวัสดิการตำรวจเป็นรูปกองทุนสวัสดิการ ซึ่งเมื่อรวมกับกองทุนมูลนิธิต่างๆ เงินเหลือ 220 ล้านบาท และ สตช.ก็ใช้เงินจำนวนนี้ช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา จึงอยากให้ สตง.ไปดูว่า สิ่งที่ตำรวจได้รับถูกต้องตามมติ ครม. ไม่ใช่งุบงิบทำกันเอง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบแบบแผน การตรวจสอบเงินของกองสลากฯ นั้นเป็นเรื่องของ สตง.กับกองสลากฯ การพาดพิงตำรวจในลักษณะที่เรียกว่าเหมือนงุบงิบกับกองสลากฯ นั้น เห็นว่าไม่ชอบ เพราะที่มาที่ไปทั้งหมดชัดเจน

ข่าวที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือสื่อได้รับจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ต้องพิจารณาโดยรอบคอบว่ามีต้นตอที่มาที่ไปอย่างไร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ไปรับมาโดยมิชอบ แต่เป็นเรื่องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เงินทุกบาทเราได้จัดสรรให้กับตำรวจอย่างแท้จริง เงินที่ได้มาจำนวนนี้ทำให้การทำงานดูแลความสงบเรียบร้อยดำเนินต่อไปได้ เราทำทุกอย่างให้ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบทุกประการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยพลการ หรือลับลมคมใน ข่าวนี้สร้างความไม่สบายใจให้แก่ตำรวจ เราพยายามทำงานให้ประชาชน โฆษก สตช.กล่าว

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนิน มีการประชุมคณะกรรมการสลาก ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียดตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำจึงแล้วเสร็จ โดยนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสลาก ได้ออกมาเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือและเห็นชอบในการออกประกาศเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ่ายเงินรางวัลแจ็กพอตใหม่ ซึ่งจะมีผลในงวดวันที่ 16 พ.ย. นี้ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากมติของคณะกรรมการสลาก ที่ผ่านมา ซึ่งมองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อยอดการจำหน่าย และมีรางวัลให้กับผู้มาเสี่ยงโชคกับหวยบนดินอยู่ ซึ่งแจ็กพอตยังคงมี เพียงแต่ไม่ก้อนใหญ่เหมือนแต่ก่อน และแต่ละงวดนั้นจะมีผู้ถูกรางวัลหวยบนดินมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับประกาศดังกล่าวหลังจากลงนามจะส่งไปยังตัวแทนจำหน่ายเพื่อให้ทราบต่อไป รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้บรรดาผู้ที่ซื้อหวยบนดินรับทราบอีกด้วย

ปลัดคลังยังกล่าวเพิ่มเติมถึงกรณี สตง.พบความไม่ชอบมาพากลในการจ่ายเงินก้อนโตให้ สตช. ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีการหารือกันในที่ประชุมบอร์ด แต่ตรวจสอบแล้วเป็นเงินในส่วนที่จะให้ตำรวจเพื่อช่วยในการปราบปราม หวยใต้ดินตามมติ ครม. ส่วนที่ว่าจะเลิกหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ และไม่แน่ใจว่าหลังจากที่มีการจำหน่ายหวยออนไลน์เงินส่วนแบ่งดังกล่าวจะคงอยู่หรือไม่

ขณะที่นายวันชัย สุระกุล รักษาการ ผอ.สำนักงานสลากฯ ก็กล่าวถึงเรื่องที่ สตง.ชี้ว่ายังมีงบประมาณอีก 700 กว่าล้านบาท ที่สำนักงานสลากฯจ่ายเป็นค่าตอบแทนในช่วง 3 ปี (2547-2549) แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเป็นค่าตอบแทนอะไรและจ่ายให้ใครนั้น ไม่ขอยืนยันว่าเป็นส่วนไหน เพราะเพิ่งมารับหน้าที่รักษาการ ผอ.สำนักงานสลากฯ ขอเวลาตรวจสอบก่อน

สำหรับบรรยากาศใกล้วันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ประชาชนที่ยังหวังรวยกับตัวเลขต่างออกแสวงหาเลขเด็ดมาทุ่มซื้อสลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสลากเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัว เนื่องจากงวดประจำวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะเป็นงวดสุดท้ายที่มีรางวัลแจ็กพอตสูงถึง 35 ล้านบาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดวันที่ 30 ต.ค. ที่วัดพราหมณี หมู่ 9 ต. สาริกา อ.เมืองนครนายก ประชาชนนับพันคน หลั่งไหลไปกราบไหว้หลวงพ่อปากแดงเพื่อหวังได้เลขเด็ดจากการเขย่าเซียมซีเสี่ยงทาย เมื่อได้เลขอะไรก็จะไปขอซื้อจากพ่อค้าแม่ค้าหวยบนดินหรือสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มาตั้งแผงให้บริการถึงด้านหน้าอุโบสถ บางส่วนพากันไปขูด หาเลขเด็ดจากต้นตะเคียนเงินตะเคียนทอง บ้างก็ไปเพ่งหาเลขเด็ดในขันน้ำมนต์ ขณะที่ประชาชนอีกส่วนหนึ่งได้ ไปให้พระครูโสภณพรหมคุณ หรือหลวงพ่อตึ๋ง เจ้าอาวาส ช่วยทำพิธีบังสุกุลเป็นบังสุกุลตายให้พร้อมทั้งเจิมหน้าผากเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต สำหรับเลขเด็ดที่มีคนทุ่มซื้อมากในงวดวันที่ 1 พ.ย.นี้ มีหลายชุด อาทิ 498, 538, 89, 51, 38 เป็นต้น

ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดีล็อกเลขรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ในงวดประจำวันที่ 1 มิ.ย. 2544 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ต.ค. ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายทองสุข ชนะการี จำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น เพื่อได้ไปซึ่งทรัพย์สินและซ่องโจร โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า ในการออกสลากรางวัลกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิ.ย. 2544 นายทองสุข จำเลย ได้ร่วมกับนายณรงค์ อุ่นแพทย์ หรือกลม บางกรวย กับพวก ทำให้ผลการออกสลากรางวัลที่ 1 งวดดังกล่าวออกเป็นเลข 113311 โดยนายทองสุข แอบอ้างเป็นบุคคลอื่น เพื่อใช้สิทธินำหางบัตรเข้าชมการออกสลากขึ้นไปตักลูกบอลออกสลากรางวัล โดยการกระทำดังกล่าว ยังทำให้ได้มาซึ่งของชำร่วยของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 3 ชิ้น ชิ้นละ 300 บาทด้วย โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ผิดกฎหมายหลายบท จึงให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยทุกความผิด พิพากษาให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 4 ปีฐานซ่องโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 โดยจำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 (1)

เป็นบทหนักสุด ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี รวมจำคุกจำเลยทุกกระทงความผิดเป็นเวลา 6 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ เห็นควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 3 ปี พร้อมให้จำเลยชดใช้เงินค่าของชำร่วยคืน สำนักงานสลาก กินแบ่งรัฐบาล รวม 900 บาท หลังฟังคำพิพากษานายทองสุขถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เนื่องจากไม่มีญาติมายื่นขอประกันตัว

ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนให้จำคุกนายณรงค์ หรือกลม บางกรวย นายสมตระกูล จอบกระโทก พ.อ.อ.กิตติชาติ กุลประดิษฐ์ และนายสุริยัน ดวงแก้ว หรือผู้ใหญ่หมึก ซึ่งอัยการยื่นฟ้องไปก่อนแล้วเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2544 ฐานฉ้อโกงและซ่องโจร รวม 6 ปี ส่วนนายพิชัย เทพอารักษ์ หรือ ชัย โคกสำโรง จำเลยร่วมอีกคนหนึ่ง ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษให้จำคุกเฉพาะความผิดฉ้อโกงเท่านั้น เป็นเวลา 2 ปี ส่วนความผิดซ่องโจรให้ยกฟ้อง ซึ่งขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นฎีกา โดยนายณรงค์ หรือกลม บางกรวย ได้รับการประกันตัวระหว่างฎีกา

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ