แฉทำผิดข้อตกลงตัดไม้เกินกว่า20ต้น
สั่งเบรกโครงการขยายถนนธนะรัชต์ขึ้นเขาใหญ่ “สุวิทย์” อัดกรมทางหลวงทำผิดข้อตกลงกับกรมป่าไม้
ว่าต้องตัดต้นไม้ไม่เกิน 20 ต้น แต่โค่นไปอื้อซ่า 128 ต้น อายุขั้นต่ำ 30 ปี มีทั้งตะแบก ไม้สัก มะค่าโมง พยุง สะเดา ที่สำคัญยังตัดอุโมงค์ต้นไม้เป็นระยะทางกว่า 1 กม. ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ ให้อธิบดีกรมอุทยานฯไปนัดถกกับอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อคลี่คลาย ปัญหา
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีกรมทางหลวงเตรียมขยายเส้นทางหมายเลข 2090 หรือถนนธนะรัชต์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ซึ่งเป็นถนนขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จาก 2 เลน เป็น 8 เลน ระยะทาง 10 กม. ทำให้ต้องโค่นต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก ว่าโครงการ ดังกล่าวได้ขยายเส้นทางจาก 2 เลน เป็น 4 เลน ไม่ใช่ 8 เลนตามที่เป็นข่าวการ ขยายถนนเส้นนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการจราจร ซึ่งอยู่ห่างจากเขตอุทยานฯ กว่า 10 กม. และกรมทางหลวงได้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยได้ปลูกต้นไม้ทดแทนประมาณ 2,000-3,000 ต้น เพื่อคงสภาพให้สวยงาม
ขณะที่นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวงคงไม่ทบทวนโครงการดังกล่าว
เพราะสัญญาได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว และยืนยันว่าพื้นที่ขยายเส้นทางอยู่นอกเขตอุทยานฯ ซึ่งเขตทางเป็นของกรมทางหลวง ไม่ใช่เขตอุทยานฯ เป็นการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทาง เนื่องจากปัจจุบันมีการจราจรจำนวนมาก โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ มีปริมาณรถ 8,000-9,000 คันต่อวัน โดยระยะทางที่ขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องเป็น 4 ช่อง รวมระยะทางประมาณ 8 กม. อยู่นอกเขตอุทยานฯ และพื้นที่โดยรอบที่จะขยายถนนเป็นเขตชุมชน ทั้งสองข้างทางมีทั้งบ้านพักอาศัย โรงแรมและรีสอร์ท โดยอยู่ห่างจากเขตอุทยานฯ 13 กม.
ทางด้านนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวภายหลังจากพานายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างขยายถนน ธนะรัชต์ ว่ากรมทางหลวงได้ดำเนินการขยายถนน โดยตัดต้นไม้ทั้งสองข้างทางไปแล้วเป็นระยะทาง 8 กม. โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ถูกตัด 128 ต้น ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมป่าไม้ อนุญาตให้กรมทางหลวงใช้ประโยชน์ได้ ภายใต้เงื่อนไขกติการ่วมกันคือ ต้องตัดต้นไม้ไม่เกิน 20 ต้น หรือไม่เกิน 5 ลูกบาศก์เมตร หากกรมทางหลวงทำตามข้อตกลงที่กล่าวมา จะดำเนินการอย่างไรไม่ต้องแจ้งให้กรมป่าไม้ทราบ แต่ถ้าทำนอกเหนือกติกา กรมป่าไม้สามารถระงับดำเนินการได้ทันที เบื้องต้นให้อธิบดีกรมอุทยานฯไปหารือกับอธิบดีกรมทางหลวง เพื่อคลี่คลายปัญหา
“โดยหลักการแล้ว ไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้แน่นอน เพราะเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นเลย คือมีการตัดต้นไม้ที่เป็นอุโมงค์ต้นไม้ทิ้งทั้งหมดเป็นระยะทางกว่า1 กม. โดยอุโมงค์ต้นไม้ คือ พื้นที่ถนนที่มีต้นไม้สองข้างทางโค้งเข้าหากันเป็นร่มเงา เป็นอันซีนไทยแลนด์ ซึ่งตอนนี้หายไปแล้ว ไม่ต้องถามว่าความเสียหายเท่าไหร่ เพราะประเมินค่าไม่ได้ ต้นไม้ที่ถูกตัดทิ้งไปทั้ง 128 ต้น เป็นไม้ที่อายุขั้นต่ำ 30 ปี มีทั้งตะแบก ไม้สัก มะค่าโมง พะยูง สะเดา การปลูกทดแทนหรือทำอะไรในปัจจุบันไม่ได้อีกแล้ว เพราะตัดทิ้งไปหมดแล้ว” นายสุวิทย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายสุวิทย์กล่าวว่าได้ให้นายจตุพร ไปหารือกับอธิบดีกรมทางหลวง ส่วนการก่อสร้างที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป แต่ต่อไปนี้ให้หยุดดำเนินการทันที เพราะถือว่าที่ผ่านมากรมทางหลวงทำผิดข้อตกลงเดิมที่ทำร่วมกัน
เมื่อถามอีกว่าไม้ที่ตัดไปอยู่ที่ไหน นายสุวิทย์กล่าวว่ากรมทางหลวงแจ้งว่า เอาไปไว้ที่ปางช้างทางขึ้นเขาใหญ่
แต่ยังไม่ได้ไปตรวจสอบว่าอยู่ในลักษณะอย่างไร ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าก่อนหน้านี้ทำไมจึงปล่อยให้กรมทางหลวงขยายถนนและตัดต้นไม้ได้ขนาดนี้ นายสุวิทย์กล่าวว่ากรมทางหลวงมีข้อตกลงกับกรมป่าไม้ ว่าสามารถใช้พื้นที่ได้ แต่ไม่คิดว่าจะตัดต้นไม้มากขนาดนี้ ส่วนนายจตุพรกล่าวว่า ได้นัดคุยกับอธิบดีกรมทางหลวงว่าจะเยียวยาพื้นที่เสียหายไปแล้วอย่างไรบ้าง ส่วนพื้นที่ที่เหลือตามโครง การเดิมที่จะขยายถนนต่อไปให้ครบ 24 กม. จนถึงทางเข้าอุทยานฯเขาใหญ่ นั้นอธิบดีกรม ทางหลวงบอกว่าจะไม่ทำต่อแล้ว.