เปิดเทอมแรก-เปิดแยกราชประสงค์...เหงา !

 

คมชัดลึก :สี่แยกราชประสงค์ 24 พฤษภาคม 2553

 แม้สถานการณ์จะกลับเป็นปกติ ปราศจากเวทีปราศรัยใหญ่ ผู้ชุมนุมเสื้อแดง และเสียงอึกทึกจากเครื่องขยายเสียงกำลังสูง ยกเว้นซากปรักหักพังของเซ็นทรัลเวิลด์ โรงหนังสยาม ธนาคารนครหลวงไทย และคราบไคลแห่งความบ้าคลั่งของผู้คนที่คุมแค้นรัฐบาลที่เป็นประจักษ์พยานถึงสิ่งที่เกิดขึ้น กระนั้นสถานการณ์บริเวณนี้จะเรียกว่ากลับคืนสู่ภาวะ "ปกติสุข" คงจะยังอีกไกลนัก

 แปดโมงเช้า "พรพิรุณ แสนสุขโพธิ์" นิสิตจุฬาฯ ใหม่หมาดวัย 18 ปี ในชุดนักเรียน ม.ปลาย ทนรอรถโดยสารต่อไปไม่ไหว ตัดสินใจเดินเท้าจากป้ายรถเมล์หน้าวัดปทุมวนารามมุ่งหน้าไปจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อยื่นเอกสารเข้าหอพักและติดต่อขอทุนการศึกษาอย่างที่ตั้งใจ

 พรพิรุณมาจากสกลนคร มาพักอยู่กับญาติในชุมชนหลังวัดปทุมฯ ที่อยู่ใกล้กับจุดชุมนุมใหญ่มากที่สุด หรือจะเรียกว่าอยู่เกือบใจกลางการปะทะระหว่างทหารกับแดงฮาร์ดคอร์ แม้สถานการณ์ยามนี้จะดีขึ้นจนเกือบจะกลับสู่สภาพเดิม ทว่าความรู้สึกลึกๆ ของเด็กสาวก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 "บรรยากาศทั่วไปยังดูน่ากลัวอยู่เลย แต่ดีใจที่เรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปแล้ว ตอนเช้าออกมายังรู้สึกกลัวบ้าง เพราะยังเสียขวัญกับเรื่องที่เกิดขึ้น" พรพิรุณ กล่าว

 ดูเหมือนความรู้สึกของผู้คนแถบนี้ยังไม่คลายจากความตื่นตระหนก แม้แต่แม่ของ "ฉวีวรรณ หมื่นศรี" นักเรียนหญิงชั้น ม.3 ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย ซึ่งมีบ้านอาศัยอยู่หลังเซ็นทรัลเวิลด์ ยังไม่อยากให้ลูกสาวไปเรียนวันแรก แต่ติดที่ลูกสาวปิดเทอมไปนาน อยากพบเจอเพื่อนๆ จึงรบเร้าขอให้พ่อขับรถไปส่งตั้งแต่เช้าตรู่

 "เมื่อเช้ารถโดยสารไม่มีเลยค่ะ เลิกเรียนก็กลับบ้านเลย ไม่ได้ไปเดินห้างเถลไถลที่ไหน ยังรู้สึกกลัวอยู่ เหมือนจะไม่ปลอดภัย กลัวระเบิดที่อาจจะหลงเหลืออยู่ด้วยค่ะ"

 ถึงแม้ว่ากรุงเทพมหานครจะเปิดการเดินรถที่สี่แยกราชประสงค์แล้วก็ตาม แต่การจราจรก็ไม่คับคั่งเหมือนอย่างเคย มีเพียงรถราสัญจรไปมาบางตาเท่านั้น ส่วนห้างใหญ่ 3 แห่ง เซ็นทรัลเวิลด์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามพารากอน ยังคงปิดให้บริการเหมือนเดิม อนุญาตให้เพียงผู้ประกอบการร้านค้าเข้าไปทำความสะอาด และตระเตรียมข้าวของ เพื่อจะเปิดให้บริการตอนสิบโมงเช้าวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ เท่านั้น

 ส่วนบรรยากาศตามร้านรวงรอบๆ ห้างใหญ่ละแวกราชประสงค์ก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกันไม่มีผิด แม้บางร้านจะลดราคาตั้งแต่ 10-50 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียว

 "เล็ก" วัย 30 ปี ลูกจ้างร้านขายรองเท้าสยามซอย 4 ยอมรับว่า ติดป้ายลดราคามาตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ก็ยังขายไม่ได้เลยแม้แต่คู่เดียว แม้จะมีลูกค้าเข้ามาเดินดูของเยอะ แต่กลับไม่มีคนซื้อเลย เล็กพยายามมองโลกในแง่ดี โดยปัดให้เป็นเรื่องเศรษฐกิจไม่ดีและประเทศไทยเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆ มา จึงไม่มีกระจิตกระใจช็อปปิ้ง

 "ลูกค้าอาจจะกลัว เลยไม่ค่อยกล้าเข้ามา เมื่อเช้ามีคนเข้ามาดูสินค้าเยอะนะ แต่ก็ไม่ซื้อ รายได้ที่เคยได้วันละ 2 หมื่นกว่า เหลือไม่ถึงพัน อยากจะขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ ในฐานะลูกจ้างเมื่อขายไม่ได้ก็ไม่ได้เปอร์เซ็นต์ ได้แต่ค่าแรงขั้นต่ำ แต่ก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ด้วยไหม" เล็ก กล่าว

 ถัดไปอีกซอย ที่สยามซอย 6 ก็ถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกแห่งความเงียบเหงาเช่นกัน "จินตนา ชาติชาคร" อายุ 51 ปี เจ้าของร้านขายหนังสือ "พี่ต้อย" ที่เปิดดำเนินการมา 25 ปีแล้ว ยอมรับว่า เปิดร้านวันแรกว้าเหว่มาก ไม่มีลูกค้าซื้อของเลย แต่ยังดีที่มีลูกค้าเก่าแก่แวะเวียนมาสอบถามพูดคุยให้กำลังใจ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยโปรโมทให้ร้านค้าย่านนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

 "คนยังรู้สึกกลัวพื้นที่นี้อยู่ ตัวฉันเองก็ทำใจยอมรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังดีกว่าร้านค้าข้างๆ ที่ถูกเผาเขาแย่ยิ่งกว่านี้อีก"

 แม้แต่สถาบันกวดวิชาอย่าง "แอพพลายด์ฟิสิกส์" หลังผ่านพ้นวันคืนร้ายๆ เปิดให้บริการมา 3 วันแล้ว ก็ยังไม่มีลูกค้าเข้ามาติดต่อเลยแม้แต่รายเดียว

 "เราเปิดรับสมัครเรียนเท่านั้น เพราะตัวอาคารมีรอยร้าวจากไฟไหม้ เลยไม่กล้าเปิดสอน แค่รับสมัครแล้วส่งไปเรียนสาขาอื่น ยังไม่มีคนเข้ามาติดต่อเลย รายได้หายไป 70-80 เปอร์เซ็นต์ คงต้องรอดูช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน อีกครั้งว่า ลูกค้าจะกลับมาเหมือนเดิมไหม" พนักงานสถาบันกวดวิชา ระบุ

 แม้บรรยากาศที่สี่แยกราชประสงค์จะยังไม่คึกคักเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ แต่กระนั้นก็น่าสังเกตว่า มีผู้คนหลากหลายที่สัญจรผ่านไปมาแวะเวียนถ่ายรูปย่านเศรษฐกิจนี้ ที่ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ในการต่อสู้ทางการเมือง ตัวประกัน และผู้เสียหายที่น่าเห็นใจ โดยเฉพาะเซ็นทรัลเวิลด์ โรงหนังสยาม ธนาคารนครหลวงไทย มีผู้คนสนใจมากเป็นพิเศษ

 "ตึกเรียนอยู่ด้านหลังนี่เองค่ะ หลังจากทำกิจกรรมเสร็จเลยแวะมาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ เคยมาซื้อของที่นี่ เห็นภาพในทีวีแล้วอยากเห็นกับตา เลยมาดูแล้วถ่ายภาพเก็บไว้เป็นภาพประวัติศาสตร์" ตอง นักศึกษาปี 1 คณะทันตกรรมศาสตร์ จุฬาฯ บอกขณะโพสท่าถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ที่หน้าโรงหนังสยาม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์