นายวิจารย์ สิมาฉายา รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เปิดเผยวันที่ 24 พฤษภาคม ว่า หลังจากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินสารเคมี ของคพ.ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร(กทม.)กทม.เข้าไปตรวจสอบ มลพิษตกค้างในเขตพื้นที่การชุมนุมที่มีการเผายางรถยนต์จำนวนมากในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ แถวบ่อนไก่ พระราม 4 บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากเป็นห่วงว่าสารมลพิษในกลุ่มไฮโดรคาร์บอน สารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยผลการตรวจวัดจากเครื่อง วัดก๊าซพิษในอากาศ ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดภาคสนามที่รายงานผลได้ทันที เบื้องต้นไม่พบสารตกค้าง แต่ได้เก็บตัวอย่างอากาศ นำมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการอีกครั้งหนึ่งและจะทราบผลในวันที่ 25 พฤษภาคม
รองอธิบดีคพ. กล่าวว่า ส่วนตะกอนสีดำ คล้ายผงถ่าน ที่เกิดจากการเผาไหม้ยางรถยนต์ ที่ คพ.ได้เก็บมาจากบริเวณแถวบ่อนไก่ พระราม 4
ซึ่งได้วิเคราะห์แล้ว พบมีกลุ่มสารโลหะหนักปนเปื้อนอยู่ โดยเฉพาะสังกะสี มีค่าเกินมาตรฐานสูงถึง 50,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จากค่ามาตรฐาน 5,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เนื่องจากการเผายางรถยนต์ปริมาณมากๆ จะมีองค์ ประกอบของสังกะสีออกไซด์ออกมา นอกจากนี้ยังมีทองแดง รวมอยู่ด้วย ขณะนี้เตรียมส่งหนังสือประสานไปยัง กทม.เพื่อให้ระมัดระวังในการจัดเก็บคราบผงสีดำเพื่อป้องกันไม่ให้ฟุ้งกระจาย และขอให้รวบรวมนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีด้วย เพราะถือว่าเข้าข่ายกากของเสียอันตรายแล้ว
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีฝนตกและทางกทม.ทำความสะอาดบริเวณผิวจราจรทำให้ผงสังกะสีลงไปท่อน้ำทิ้งแล้ว จะทำอย่างไร
นายวิจารย์ กล่าวว่า ขณะนี้ทาง คพ.จะต้องเข้าไปเก็บน้ำทิ้งในจุดที่มีการทำความสะอาดพื้นที่ถนนที่มีน้ำโลหะหนักไหลปนเปื้อนลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้ถ่ายเทลงในลำคลองสาธารณะ รวมทั้งจะเข้าตรวจสอบคุณภาพอากาศในจุดที่มีการเข้าไปตรวจสอบเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบซ้ำ และดูว่ายังมีผงโลหะหนักหลงเหลือในพื้นที่หรือไม่
นางอินจิรา นิยมธูร ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากคพ.แล้ว
ยอมรับว่าไม่ได้เก็บรวบรวมตะกอนผงเขม่าที่เกิดจากการเผายางรถยนต์ไว้เลย เนื่องจากหลังเกิดเหตุเมื่อ วันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พื้นที่ ที่มีการเผายางรถยนต์ ส่วนใหญ่ทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานฉุกเฉิน (ศอฉ.) ยังไม่ได้คืนพื้นที่ให้กับทางกทม. ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาทำให้ตะกอน และคราบเขม่าจากการเผายางส่วนใหญ่ถูกชะล้างลงไปในท่อระบายน้ำเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีตะกอนที่มีการปนเปื้อนของสังกะสีในปริมาณสูง แต่เมื่อลงในระบบบำบัดไปรวมกับตะกอนอื่นๆในน้ำเชื่อว่าจะทำให้ค่าความเข้มข้นลดลงได้ ทั้งนี้ทางสำนักระบายน้ำ กทม.จะมีการตรวจสอบตะกอนบำบัดน้ำเสียอยู่ เป็นประจำ ส่วน เศษยางที่หลอมละลายไม่หมดบางส่วนได้ส่งไปกำจัดที่เตาเผาขยะที่อ่อนนุชแล้ว