ผู้ว่าฯกฟน.ยันใน1-2วันจ่ายไฟฟ้าครบทุกจุด

คมชัดลึก :ผู้ว่าฯการไฟฟ้านครหลวง ระบุ ภายใน1-2 วัน สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ครบทุกจุด

นายพรเทพ กล่าวว่า กฟน.ได้เข้าไปเร่งจ่ายไฟฟ้าในหลายพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.)

โดยหม้อแปลง สายส่งไฟฟ้าหลายจุดถูกเพลิงไหม้ การจะเข้าไปพื้นที่แต่ละแห่งก็ต้องรอให้ทางทหารส่งมอบพื้นที่ก่อน ส่วนพื้นที่ราชประสงค์ ชิดลม หากวันนี้ (21 พ.ค.) ทหารแจ้งมา กฟน.จะเข้าพื้นที่เพื่อเร่งจ่ายไฟฟ้าโดยเร็ว รวมถึงอาคารสำนักงานใหญ่ ของ กฟน.ที่เพลินจิตด้วย หากมีความพร้อม พนักงานก็อาจจะทยอยกลับไปทำงานที่อาคารสำนักงานใหญ่ต่อไป

ส่วนอาคารสำนักงาน กฟน. คลองเตย ซึ่งเป็นอาคาร 6 ชั้น ที่ถูกเผานั้น ผู้ว่าการ กฟน. กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินทางมูลค่าว่าเสียหายมากน้อยเพียงใด

แต่ยืนยันว่า ไม่กระทบต่อระบบไฟฟ้าที่บริการประชาชน และผู้จะติดต่อ กฟน.ก็สามารถติดต่อยังสำนักงานที่เปิดบริการในพื้นที่อื่น ๆได้ ส่วนคอลเซ็นเตอร์ 1130 ของ กฟน.ยังไม่สามารถบริการได้ เพราะไฟเบอร์ออฟติกได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ในขณะนี้ เปิด 20 คู่สายบริการทดแทน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2611 5369

ด้านนายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการในย่านราชประสงค์ กล่าวว่า ตั้งแต่วานนี้ได้เข้าไปพื้นที่สำรวจตามอาคารต่าง ๆ ในย่านราชประสงค์

คาดว่าไฟฟ้าน่าจะใช้ได้ในวันนี้ โดยได้ร่วมกับทางทหารไปตรวจสอบอาคารและอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ว่า เสียหายขนาดไหน อย่างไรก็ตาม หลายอาคาร เช่น โรงแรมต่างๆ หากไฟฟ้าเข้าพื้นที่ก็จะสามารถเปิดใช้อาคารได้เร็วๆ นี้ โดยในขณะนี้อาคารอัมรินทร์ พลาซ่า เกษรพลาซ่า ก็เข้าไปตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หากแต่ละอาคารมีการติดต่อประสานงานมา สมาคมฯ จะประสานกับทางทหารเข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อที่อาคารทั้งหมดจะกลับมาเปิดบริการโดยเร็ว

นายกสมาคมผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางสมาคมฯ ได้หารือกับทางภาครัฐในการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการแรงงานไปแล้ว

หลังจาก มีการชุมนุมและได้รับผลกระทบมานาน 2 เดือน ต่อจากนี้จะมีการประเมินอีกครั้ง และ 1-2 วันนี้ จะเห็นความชัดเจนและสัปดาห์หน้าจะได้หารือกับทางภาครัฐต่อไป แต่สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูของเศรษฐกิจ คือ รัฐบาลจะต้องแสดงความเชื่อมั่นให้นักลงทุนมั่นใจว่าจะทำอย่างไรให้มีการดูแล ความปลอดภัยทุกด้านมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการประกอบการอย่างสุจริต แต่ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ซึ่งภาครัฐต้องชี้แจงว่าจะทำให้เกิดความมั่นใจได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การลงทุน การค้าขาย อาจจะพื้นตัวกลับมาได้ยาก

นอกจากนี้ การเดินหน้าตามแผนปรองดองต้องทำต่อเนื่อง ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า “2 มาตรฐาน” จะไม่เกิดขึ้น เพราะจะทำให้ประชาชนทุกกลุ่มเชื่อมั่นในการปกครอง กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะเย็นลง ปัญหาก็จะไม่เกิดตามมาอีก ส่วนการบรรเทาผลกระทบความเดือดร้อน ทุกฝ่ายคงต้องร่วมกันเร่งหาทางแก้ปัญหาโดยเร็ว