ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวในกทม.และหลายจังหวัดเมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค. ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 20 พ.ค.
ปรากฏว่าช่วงเช้าวันที่ 20 พ.ค. ที่ตลาดไท ตลาดรังสิต ตลาดสี่มุมเมือง ในเขตจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตลาดกลางขนาดใหญ่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้าโดยเฉพาะอาหารสดอาหารแห้งมากกว่าปกติ จากการสอบ ถามแม่ค้าในตลาดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าลูกค้ามาซื้อเพื่อกักตุนไว้ เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์บ้านเมือง และมีประกาศเคอร์ฟิวไม่สามารถออกนอกบ้านได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ทั้ง เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี เกือบทุกสาขา ต่างก็มีประชาชนมาซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และอาหารกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะข้าวสาร ไข่ เนื้อสัตว์ และอาหารแห้งต่างๆ
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากความไม่สงบของบ้านเมือง กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โดยหารือกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เตรียมสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ และกำชับไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา จากการตรวจสอบยังไม่พบปัญหากักตุนสินค้าหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า อย่างไม่เป็นธรรม แต่ยอมรับว่าร้านสะดวกซื้อในเขตพื้นที่การชุมนุมหรือใกล้เคียงอาจมีสินค้าบางชนิดไม่พอ เนื่องจากประชาชนซื้อมาเก็บตุนไว้ และมีปัญหาการขนส่งสินค้าเข้าไปเติม
"ห้างร้านใดกักตุนสินค้า หรือฉวยโอกาสขึ้นราคา กรมการค้าภายในจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวและว่า ขณะนี้ยอดซื้อขายในห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นถึง 30-40% ขอยืนยันว่าปริมาณสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า ภายหลังศอฉ.ประกาศเคอร์ ฟิว พบว่ายอดขายสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ข้าวสาร โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตามร้านค้าปลีกย่อยในกรุง เทพฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% มีประชาชนต่อแถวเพื่อขอซื้อสินค้า เนื่องจากร้านจำเป็นต้องปิด เร็วขึ้น
"ประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งเป็นช่วงหลังเลิกงาน มีประชาชนจำนวนมากแห่มาต่อแถวซื้อสินค้าประเภทอาหารจำนวนมากตามร้านค้าปลีกรายย่อย ร้านค้าสะดวกซื้อทั่วกรุงเทพฯ เพื่อตุนไว้รับประทานในช่วงที่ศอฉ.ประกาศห้ามออกจากบ้าน ทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นกว่าวันปกติ 50% ผู้ประกอบการต้องซื้อสินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น 100% สำรองเป็นสต๊อกให้เพียงพอ" นายสมชายกล่าว