วางกรอบยุบยิบ! ห้ามโฆษณาเหล้า

"อนุญาตให้โฆษณาภาพลักษณ์องค์กรได้"


เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ภก.มานิตย์ อรุณากูร รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือถึงกรอบการทำงานตามประกาศห้ามโฆษณาแอลกอฮอล์ทางสื่อทุกชนิด 24 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมสามารถสรุปแนวทางปฏิบัติตามประกาศ โดยมีรายละเอียดคือ กรณีการห้ามโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์นั้น อนุญาตให้โฆษณาภาพลักษณ์องค์กรได้ ถ้าเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรม ธรรมชาติ และไม่เกี่ยวข้องหรือมีเจตนาส่งเสริมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยสามารถใช้ชื่อบริษัทที่ไม่ตรงกับชื่อสินค้า รวมถึงต้องไม่ใช้สัญลักษณ์ และสีเดียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับวิทยุโทรทัศน์ ห้ามออกเสียงชื่อสินค้าและคำขวัญของสินค้า โดยสามารถเผยแพร่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หากทำตามกติกาดังกล่าวโดยจะพิจารณาจากเจตนาเป็นหลัก ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของ อย.เป็นผู้พิจารณา

รักษาการเลขาธิการ อย. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้ ประสานกับ กทม.เพื่อให้ปลดป้ายโฆษณาสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผิดตามแนวทางปฏิบัติดังกล่าวออกทั้งหมด รวมถึงป้ายที่จะติดตั้งใหม่ กทม.จะเป็นผู้ดูแลเพราะมีอำนาจในการอนุญาตติดตั้งป้าย โดยผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามก่อนวันที่ 3 ธ.ค. นี้ ซึ่งประกาศจะมีผลบังคับใช้ทันที โดยไม่มีการผ่อนปรนใดๆ และหากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที มีโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท และจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ ลานเบียร์ ร้านอาหาร สามารถมีพนักงานเชียร์เบียร์ได้ โดยเครื่องแต่งกายและสถานที่จำหน่ายที่มีการติดตั้งร่ม โต๊ะ ธงราว ป้าย ฯลฯ สามารถใช้สีพื้นของสินค้าแทนได้ แต่ห้ามตราสัญลักษณ์ทุกสีที่ทำให้ส่อเจตนาว่าเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ห้ามใช้รูปสิงห์สีทองรวมถึงรูปสิงห์สีฟ้าหรือสีแดง ทั้งนี้ ต้องดูสภาพแวดล้อมประกอบด้วย เพราะอาจเจตนาทำให้เข้าใจว่าเป็นการโฆษณาได้

"แจกของได้แต่ห้ามมีโลโก้สินค้า"


ภก.มานิตย์กล่าวต่อว่า ในส่วนของแจก ของแถม เพื่อส่งเสริมการขาย และของแจกเพื่อสาธารณะหรือการกุศลไม่ว่าจะเป็นแก้วนํ้า เสื้อยืด ผ้าห่ม สามารถแจกได้ตามปกติ แต่ห้ามมีสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์อื่นที่ส่อเจตนาให้เข้าใจว่าเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด และห้ามตั้งชื่อรายการกีฬาและอื่นๆ ให้สอดคล้องกับชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สิงห์ กอล์ฟ, ไทเกอร์ กอล์ฟ ฯลฯ แต่หากชื่อรายการนั้นมีมานานแล้วให้กรณีดังกล่าวได้รับการยกเว้น

ต่อไปนี้การดำเนินมาตรการตามประกาศนอกจากแนวทางดังกล่าวแล้ว จะถือเจตนาเป็นสำคัญ โดยที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายห้ามอย่างชัดเจน ทำให้เกิดการละเมิดขึ้นแม้จะมีกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ก็ตาม เช่น โฆษณาชิ้นหนึ่งที่มีพระเอกชื่อดัง ทำมือลักษณะเหมือนการถือกระป๋องเบียร์ และทำท่าเชิญชวนให้ดื่ม ลักษณะดังกล่าวถือว่ามีเจตนา ซึ่งสคบ.ได้ดำเนินการปรับไปแล้ว แต่ที่ยังเห็นโฆษณาอยู่ เพราะไม่มีกฎหมายห้ามชัดเจนเหมือนประกาศฉบับดังกล่าว ภก.มานิตย์กล่าว

"ห้ามวางบริเวณที่เด่นสะดุดตา"


ภก.มานิตย์ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับสถานที่จัดจำหน่าย อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายปลีก ฯลฯ ห้ามวางบริเวณที่เป็นจุดเด่นสะดุดตา เช่น หลังเคาน์เตอร์เก็บเงิน ทางเดิน ซึ่งจงใจทำให้เห็นชัดเจนและมีป้ายแยกออกมา เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ยาสูบ แต่ หากนำมาวางกับสินค้าอื่นก็สามารถทำได้ เช่น การจัดเป็นมุมขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ รวมทั้งกระเช้าของขวัญซึ่งมีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บรรจุไว้ ยังสามารถวางโชว์ได้ตามปกติ ส่วนร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะสามารถทำได้เช่นเดิม แต่บริเวณหน้าร้านห้ามมีป้ายสินค้า และด้านหน้าร้านต้องไม่เห็นสินค้า หากเป็นกระจกใสต้องติดฟิล์มหรือทำเป็นกระจกขุ่นเพื่อไม่ให้เป็นการโฆษณา นอกจากนั้นจะควบคุมไปถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อินเตอร์เน็ตด้วย

รักษาการเลขาธิการ อย. ยังกล่าวอีกว่า การวางแนวทางปฏิบัติดังกล่าวเป็นการทำความชัดเจนในรายละเอียดเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง ไม่ได้เป็นการถอยหรืออ่อนข้อให้ เพราะเมื่อออกประกาศก็ชัดเจนว่าเป็นการห้าม แต่การห้ามนั้น ก็ต้องลงราย ละเอียดว่าจะห้ามในระดับใด หลังจากนี้จะมีการแถลงข่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจนให้ผู้ประกอบการทราบ และในวันที่ 27 ต.ค.นี้ กรมประชาสัมพันธ์ได้เชิญ อย.ไปชี้แจงให้ผู้ประกอบการรับทราบถึงแนวทางปฏิบัติอีกครั้ง ทั้งนี้ การบังคับใช้กฎหมายตามประกาศมีการประสานกันหลายหน่วยงาน ทั้ง อย. กรมควบคุมโรค กทม. สคบ.ส่วนกลางและ สคบ.จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงสาธารณสุขจังหวัดต่างๆเพื่อดูแลให้เป็นไปตามประกาศฯ หากพบการกระทำผิดจะสามารถเอาผิดได้ทันที และหากมีผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนซ้ำ ก็จะเอาโทษในขั้นสูงคือการส่งฟ้องศาลในโทษจำคุกซึ่งไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น จึงอยากขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ดำเนินตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

"ทางที่จะทำได้อยู่ในกระแสสังคม"


นพ.สมาน ฟูตระกูล หัวหน้ากลุ่มควบคุมการบริโภคยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำนักโรคไม่ติดต่อ กล่าวว่า การแสดงชื่อบริษัทผู้ผลิตหรือบริษัทผู้จัดจำหน่ายนั้น ชื่อบริษัทนั้นห้ามเป็นชื่อที่แสดงถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น บริษัทสุราบางยี่ขัน บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เนื่องจากคำว่า บริวเวอรี่ แปลว่า โรงกลั่นเบียร์ และว่าแนวทางที่ออกมาถือว่าไม่ได้ถอยหลัง เนื่องจากการโฆษณาภาพลักษณ์องค์กรเดิมจะปรากฏภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตอนท้าย แต่จากแนวทางนี้ภาพเหล่านั้นจะไม่มีปรากฏ อีกทั้งในระยะยาวถือว่าจะเป็นประโยชน์กับเยาวชนรุ่นต่อๆไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความกังวลว่าจะมีการโฆษณาสร้างสรรค์ แต่มีผู้สนับสนุนเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สามารถเผยแพร่เวลาใดก็ได้ อาจทำให้เยาวชนเกิดความสับสนและซึมซับชื่อบริษัทนั้น นพ.สมานกล่าวว่า ทางที่จะทำได้อยู่ที่กระแสสังคม หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็สามารถผลักดันให้มีมติ ครม.ออกประกาศกรมประชาสัมพันธ์ ห้ามเผยแพร่ชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหมือนกับที่ดำเนินการในผลิตภัณฑ์ ยาสูบ หรืออีกทางหนึ่งการผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บังคับใช้โดยเร็ว

"แจกได้ตามปกติ"


ขณะเดียวกัน จากการที่ภาครัฐเร่งดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โฆษณาผ่านสื่อทุกชนิด 24 ชั่วโมง รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆการบริจาคเพื่อการกุศล บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เจ้าของเบียร์ช้าง ก็ลุยแจกผ้าห่ม โครงการ ช้างรวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 7 พ.ศ.2549 จำนวน 200,000 ผืน มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก หนองคาย หนองบัวลำภู ขอนแก่น นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้บริหารบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้รับคำตอบว่า กำหนดการแจกผ้าห่มในโครงการดังกล่าวที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่จังหวัดลำปางเป็นจังหวัดแรกและจบลงวันที่ 22 พ.ย. ที่จังหวัดกาฬสินธุ์นั้น เป็นกำหนดการเดิมที่ทำมาต่อเนื่องตลอด 6 ปีที่ผ่านมา โดยจะแจกในเดือน พ.ย.ของทุกปี ปีละ 200,000 ผืน และปีนี้เป็นปีที่ 7 ก็ทำปกติ ไม่ได้เร่งดำเนินการ เพื่อให้จบก่อนวันที่ 4 ธ.ค. ที่จะมีผลบังคับแต่อย่างใด


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์