แพทย์ช่วยสำเร็จ หญิงท้อง8เดือน ติดเชื้อหวัด2009 ปลอดภัยทั้งแม่ลูก

แพทย์ปลื้มผลการรักษาหญิงมีครรภ์ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

ช่วยเหลือแม่ลูกได้เป็นผลสำเร็จ เผยผู้ป่วยไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน เมื่อมาถึงโรงพยาบาลอาการเพียบหนัก โอกาสรอดทั้งแม่และลูกมีเพียงร้อยละ 30 ต้องระดมทีมแพทย์ทำการรักษาให้ยาทามิฟลูร่วมกับยาปฏิชีวนะ ยืนยันหญิงมีครรภ์ก็สามารถฉีดวัคซีนป้องกันหวัดมหาภัยได้ ขณะเดียวกัน ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม เผยผลการทดลองวัคซีนไข้หวัดมรณะ ครั้งที่ 1 ประสบความสำเร็จ

แพทย์ รพ.หนองคาย โชว์ผลงานช่วยเหลือหญิงมีครรภ์ป่วยเป็นโรคหวัดมหาภัยได้ทั้งแม่ทั้งลูกรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 พ.ค.

ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.หนองคาย นพ.กิติศักดิ์ ด่านวิบูลย์ ผอ.รพ.หนองคาย พร้อมด้วย นพ.สุเจตน์ เลิศอเนกวัฒนา พญ.นุสรา พัวรัตนอรุณกร พญ.ธิดานวล กองหล้า และ พญ.ญาณิศา จิรนันทกาญจน์ แถลงข่าวการรักษาหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้ปลอดภัยได้ทั้งแม่ และลูก มีนางวัฒนพร ศรีตำแย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 บ้านโนนแสงทอง ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย อุ้มน้องทับทิม ลูกสาววัย 19 วัน มาร่วมแถลงข่าวด้วย

นพ.กิติศักดิ์ ด่านวิบูลย์ ผอ.รพ.หนองคาย กล่าวว่าเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 แพทย์ รพ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย

ได้ส่งตัวนางวัฒนพร ซึ่งตั้งครรภ์ 32 สัปดาห์ หรือ 8 เดือน มารักษา ระบุว่าป่วยด้วยอาการปอดอักเสบ มีอาการไข้สูง ไอ หายใจหอบมาก จากการตรวจพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (H1N1) แพทย์ ได้รักษาด้วยยาทามิฟลูร่วมกับยาปฏิชีวนะ และใส่ท่อช่วยหายใจ


นพ.สุเจตน์ เลิศอเนกวัฒนา อายุรแพทย์เชี่ยวชาญพิเศษ (ที่ปรึกษา รพ.หนองคาย) เจ้าของไข้ กล่าวต่อว่า กรณีนี้เป็นกรณีที่ท้าทายทีมแพทย์มาก

จึงระดมความคิดเห็นเนื่องจากผู้ป่วยเป็นกลุ่มเสี่ยง และไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน หากติดเชื้อจะทำให้อาการรุนแรงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โอกาสรอดทั้งแม่และลูกนั้นมีเพียงร้อยละ 30 ทีมแพทย์จึงแจ้งกับสามีและญาติผู้ป่วยทราบ เมื่อได้รับคำยินยอมให้ผ่าตัด จึงทำการผ่าตัดนำทารกเพศหญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ทารก มีน้ำหนัก 2,040 กรัม มีอาการปกติ ตรวจไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่วนแม่ยังต้องใส่ท่อหายใจ แพทย์เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ยาร่วมด้วย จนอาการดีขึ้นตามลำดับ ขณะนี้หายเป็นปกติแล้ว และอยากย้ำว่าหญิงมีครรภ์ก็สามารถฉีดวัคซีนป้องกันได้

นางวัฒนพร ศรีตำแย ผู้ป่วย กล่าวว่า ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันหวัด 2009 เพราะเคยได้ยินว่ามีความเสี่ยง คนท้องที่ฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต จึงทำให้กลัว

ส่วนที่ติดเชื้อหวัดมหาภัย เนื่องจากลูกชายคนโตป่วยเป็นไข้หวัดธรรมดา ตนได้เช็ดตัวให้ ทำให้ติดหวัด พอรู้ว่าป่วยติดเชื้อหวัด 2009 ก็คิดว่าคงไม่รอดแล้ว พอแพทย์ช่วยชีวิตได้ทั้งแม่และลูกก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ และขอบคุณความตั้งใจของแพทย์ที่ช่วยชีวิตตนไว้ นพ.กิติศักดิ์ ด่านวิบูลย์ ผอ.รพ.หนองคาย กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหาใหญ่ของการรักษาหวัดใหญ่ 2009 ไม่ใช่ มาจากการขาดเครื่องมือ หรือบุคลากรทางการแพทย์ แต่เป็นปัญหาจากความเชื่อมั่นของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงหญิงตั้งครรภ์ ควรจะให้ความร่วมมือกับแพทย์ และต้องรู้จักป้องกันตัว เพราะขณะนี้ไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่ได้ระบาดเฉพาะช่วงหน้าหนาวแล้ว แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล ขณะนี้ประชาชนในจังหวัดหนองคาย ได้รับวัคซีนป้องกันแล้วร้อยละ 85 และจะผลักดันให้ได้รับวัคซีนครบทุกคน

ขณะเดียวกัน นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ ประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า หลังจากการทดลองวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ชนิดเชื้อเป็น ในครั้งที่ 1

มีอาสาสมัคร 24 คน ประสบความสำเร็จ มีความปลอดภัยและสามารถแก้ไขปัญหาความไม่เสถียรของวัคซีนได้ ทั้งในขนาด 6-6.5 ล็อก และ 7-7.5 ล็อก จึงเริ่มเดินหน้าการทดลองวัคซีนในครั้งที่ 2 มีอาสาสมัคร 400 คน แบ่งการทดลองเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 อาสาสมัครมีอายุ 18-49 ปี จำนวน 200 คน กลุ่มที่ 2 อาสาสมัครมีอายุ 12-18 ปี จำนวน 100 คน และกลุ่มที่ 3 อาสาสมัครอายุ 49-60 ปี จำนวน 100 คน ทั้งหมดจะได้รับวัคซีนจริง 3 ใน 4 ส่วน ที่เหลือจะเป็นวัคซีนหลอก เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาอาสาสมัครทดลองวัคซีนชนิดเชื้อเป็นเพิ่ม เนื่องจากปัจจุบันประสบปัญหา อาสาสมัครเคยป่วยเป็นไข้หวัดมาก่อน ทำให้มีอาสาสมัครที่ตรวจเลือดและสามารถร่วมทดลองวัคซีนได้ 40-50 คนเท่านั้น และในวันที่ 11 พ.ค. ก็ได้เริ่มทดลองวัคซีนครั้งที่ 2 ในอาสาสมัครจำนวน 10 คนแล้ว คาดว่า การทดลองจะสำเร็จได้ในเดือน ก.ย.นี้ หากประสบความสำเร็จ เตรียมเดินหน้าทดลองวัคซีนไข้หวัดนก ชนิดเชื้อเป็นต่อไป

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์