สาวใหญ่อุ้มลูกสาวจากสุรินทร์ ไปตามหาผัวมาเลย์ หลายวันไม่เจอ เงินหมดเลยเครียด ฝากลูกไว้กับร้านคอมฯ ตัวเองไปนอนบนรางรถไฟใกล้สถานีสุไหงโก-ลก หวังฆ่าตัวตาย...
9 พ.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิธารน้ำใจ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไปตรวจสอบบริเวณรางรถไฟ
ช่วงตัดผ่านสวนสาธารณะเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ห่างจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 200 เมตร หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีหญิงไทยไม่ทราบชื่อนอนหมดสติพาดอยู่กับรางรถไฟ เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบหญิงไทยสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สภาพอิดโรย ตัวมอมแมม นอนพาดกับรางรถไฟ สภาพคล้ายต้องการฆ่าตัวตาย ตรวจสอบยังมีชีวิตอยู่ จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวส่งรพ.สุไหงโก-ลก
ต่อมาทราบชื่อหญิงคนดังกล่าวคือ นางสมฤดี นามมนต์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 ม.1 ต.หนองหลวง อ.โนนนาราย จ.สุรินทร์
เบื้องต้นพูดจาไม่รู้เรื่องคล้ายสติไม่สมประกอบ ในตัวพบตั๋วรถไฟขบวนที่ 171 ต้นทางจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ระบุว่าเดินทางเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา และเงินสกุลริงกิตของมาเลเซีย 2 ริงกิต เทียบเงินไทยประมาณ 20 บาท
จากนั้นตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก เข้าช่วยเหลือ โดยเตรียมพานางสมฤดีไปส่งญาติ แต่ทราบว่าไม่มีญาติพี่น้องอาศัยในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก
แต่พลเมืองดีให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา นางสมฤดีเดินทางมากับขบวนรถเร็วพร้อมลูกสาวอายุ 4 ขวบ 1 คน จากนั้นข้ามแดนไปยังรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยนำลูกสาวฝากไว้กับนางเพ็ญศรี เรืองคำ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านคอมพิวเตอร์ อยู่ในเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน แล้วหายตัวไปจนมาพบตัวในวันนี้
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบอีกว่า นางสมฤดีและลูกเดินทางมาอ.สุไหงโก-ลก เพื่อมาตามหาสามีซึ่งมาทำงาน เนื่องจากใกล้เปิดเทอม
มีความจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ผ่านไป 5 วัน ไม่พบสามี ส่วนเงินที่มีก็หมด จึงฝากลูกไว้กับนางเพ็ญศรี เนื่องจากคิดว่าอย่างน้อยลูกจะไม่อดตาย จากนั้นนางสมฤดีจึงไปตามหาสามี แต่ไม่พบ โดยไม่ได้กินข้าวมาเป็นเวลานานถึง 5 วัน ทำให้คิดมาก และตัดสินใจจะฆ่าตัวตายด้วยการให้รถไฟทับ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการช่วยเหลือนางสมฤดีและลูกต่อไป