ตัดผมสาวผิดทรง ยังตกลงกันไม่ได้

ฟ้องเรียกค่าตัดผมผิดแบบ 1 แสนบาท กลายเป็นเรื่อง"ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์" รายการข่าวชื่อดัง

เชิญคู่กรณีไปออกรายการ ฝ่ายสาวใหญ่วัย 49 ปี ยืนยันช่างตัดผมผิดแบบแล้วไม่ยอมรับความผิด ส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างรุนแรง แจงยิบเหตุเรียกค่าเสียหายสูงลิบลิ่ว เพราะต้องจ่ายค่าน้ำยาเซรั่มปลูกผมใหม่ ขณะที่ช่างผมและเจ้าของร้านเสริมสวยยันพยายามแก้ไขให้อย่างดี รวมทั้งดูแลแก้ไขปัญหาลูกค้าอย่างเต็มที่ก็ยังไม่ยอม เอาเรื่องถึงขั้นแจ้งความฟ้องศาลแพ่งอีก ด้านบริษัทเสริมความงามที่ถูกสาวใหญ่อ้างถึง โร่แจงสื่อวุ่นระบุไม่เคยเป็นลูกค้าของบริษัทมาก่อน มีแค่มาปรึกษาเรื่องเส้นผมเท่านั้น แถมค่ารักษาก็ไม่ได้แพงอย่างที่อ้างด้วย

กลายเป็น "ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์" กรณี น.ส.นภัสสรณ์ อังกูรเมธีศักดิ์ วัย 49 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ

เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.นราทิพย์ ไทยภักดิ์ อายุ 29 ปี ช่างทำผมของร้านเสริมสวยลีฟ เลขที่ 30/5 ถนนประโคนชัย ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ เนื่องจากตัดผมผิดแบบและสั้นเกินกว่าจะยอมรับได้ ทำให้เกิดความอับอายไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ตามปกติ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายเป็นค่าน้ำยาเซรั่มปลูกผมกับสถาบันเสริมความงาม บริษัทฮาร์ลีย์ สตรีท แฮร์ เซ็นเตอร์ สาขาเซ็นทรัลบางนา เป็นเงินสูงถึง 1 แสนบาท ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามช่วยไกล่เกลี่ย  แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปฟ้องร้องคดีแพ่ง

ต่อมาเวลา 17.30 น. วันที่ 29 เม.ย. นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวคนดัง ได้เชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายคือ

น.ส.นภัสสรณ์ อังกูรเมธีศักดิ์ น.ส.นราทิพย์ ไทยภักดิ์ ช่างทำผม และนางธนพร สะอาด เจ้าของร้านเสริมสวยลีฟ มาออกรายการ  "เจาะข่าวเด่น"  ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย โดย น.ส.นภัสสรณ์กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 เม.ย.) ได้ไปตัดผมที่ร้านดังกล่าว เมื่อเข้าไปในร้านหยิบภาพทรงผมนางแบบจากแมกกาซีนให้ช่างดู แล้วบอกว่าเอาประมาณนี้แต่ขอความยาวไว้และไม่บาง เหตุที่เลือกทรงผมแบบนี้เพราะอากาศร้อน จึงต้องการตัดผมสั้นแต่ไม่สั้นมาก ไม่ได้บอกช่างว่าต้องเหมือนในภาพแต่ให้ประมาณนี้ จากนั้นช่างได้บอกกับตนว่าให้ไปสระผมก่อน เมื่อกลับมานั่งที่โต๊ะ น้องเขาก็ไปตามช่างมาหายไป 5 นาที ก็กลับมาบอกตนว่า ทรงที่พี่เลือกหนูถนัด พอเอาเข้าจริงกลับกลายเป็นตัดผิดแบบและสั้นมากจนรับไม่ได้

น.ส.นภัสสรณ์กล่าวต่อไปว่า เจ้าของร้านเห็นว่ามีการโวยวายเสียงดังจึงเข้ามาดูให้ แล้วบอกว่าให้ใจเย็นๆ เดี๋ยวจัดแต่งทรงให้จากทรงผมด้านหน้าที่ยังไม่ได้ตัด

เมื่อเจ้าของร้านมาตัดแต่งทรงให้กลับสั้นกว่าปกติ จากเดิมยาวเกินบ่าตัดจนสั้นเป็นหน้าม้า และมีจอน 2 ข้างยาว แต่ก็ไม่เท่ากัน เมื่อเห็นจึงรู้สึกช็อก ไม่พูดอะไรนั่งนิ่ง จากนั้นช่างกราบขอโทษ แล้วบอกว่าเด็กอาจจะตื่นเต้นที่ตัดผมเช่นนี้ ทางร้านยินดีให้ใช้บริการสระเซตฟรี 1 ปี และให้เด็กไปสระผมให้ตน แล้วใช้แกนม้วนมาม้วนผมให้ ตนรู้สึกว่าทำให้ยิ่งน่าเกลียดขึ้นไปอีก เมื่อเดินออกจากร้านด้วยความรู้สึกเบลอ ใครไม่เป็นเราจะไม่รู้สึกเลยว่าสูญเสียความมั่นใจอย่างที่สุด ถึงขนาดขับรถไม่ได้ต้องโทร.เรียกให้ลูกมาช่วยขับรถ จากนั้นตนได้โทร.ไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนแนะนำให้กลับมาที่ร้านอีกครั้งให้ทางร้านต่อผมให้ แต่ด้วยผมสั้นมาก เมื่อต่อผมแล้วทำให้นอนไม่ได้ เพราะรู้สึกเจ็บจนหนังศีรษะบวม  ต้องไปปรึกษาแพทย์ แพทย์แนะนำให้เอาผมที่ต่อนั้นออก ไม่เช่นนั้นก็จะนอนไม่ได้ และเครียดขึ้นไปอีก จากนั้นตนก็ไปปรึกษาที่ร้านฮาร์ลีย์ สตรีท แฮร์ เซ็นเตอร์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา เพื่อให้แก้ปัญหาโดยการใช้เซรั่มปลูกผมครอสละ 25,000 บาท ไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง จึงเป็นที่มาของการเรียกร้องเงิน 1 แสนบาทดังกล่าว

ด้าน น.ส.นราทิพย์โต้แย้งกลับว่า เมื่อลูกค้าเข้ามาก็บอกว่าเอาตามแบบในรูปแต่ให้สั้นกว่านี้ ตนได้อธิบายไปแล้ว คุยกันเยอะว่าเส้นผมไม่เหมือนกัน ตัดได้แต่ไม่เหมือน แค่ใกล้เคียง

สิ่งที่ตนได้ยินและเข้าใจตามที่ลูกค้าบอกก็คือ ให้เอาทรงนี้แต่สั้นกว่านี้ ด้าน น.ส.นภัสสรณ์รีบแย้งทันทีว่าสิ่งที่ช่างพูดในครั้งนี้ ตนสามารถไปยืนยันต่อหน้าพระแก้วมรกตว่าช่างไม่ได้พูดเช่นนั้นเลย ช่างไม่ได้พูดหรืออธิบายเรื่องผมใดๆทั้งสิ้น ไม่ได้พูดเลยว่าตัดไม่ได้ ตัดแล้วต้องสั้น และไม่ได้บอกด้วยว่า ต้องดัด ต้องทำสี เพียงแต่เชียร์ให้ตัด บอกแต่ว่าทรงนี้หนูถนัดเท่านั้น  น.ส.นราทิพย์แย้งว่าไม่ได้บอกว่าตนถนัด แต่บอกว่าตนตัดผมสั้นอยู่ประจำร้าน ทีแรกจะให้ช่างผู้ชายอีกคนหนึ่งมาตัด แต่ช่างคนนั้นติดลูกค้าท่านอื่นอยู่ ตนซึ่งถนัดตัดผมสั้น จึงทำหน้าที่ตัดผมแทน เพราะลูกค้าบอกว่าไม่เลือกช่าง สำหรับทรงที่สั่งตัดคิดราคา 250 บาท รวมสระด้วย

ส่วนนางธนพร สะอาด เจ้าของร้านเสริมสวยลีฟ และเป็นอาจารย์สอนตัดผม

ชี้แจงว่าได้เข้าไปพูดคุยกับน.ส.นภัสสรณ์เพื่อช่วยแก้ไขทรงผมให้ แต่ น.ส.นภัสสรณ์ ยังรับไม่ได้ ก่อนจะออกจากร้านไปและกลับมาใหม่เพื่อให้ต่อผมให้ รุ่งขึ้นอีกวันก็กลับมาให้ถอดผมที่ต่อไป ตนยังแนะนำให้ไปร้านที่มีอุปกรณ์ถอดผม โดยลูกค้าโทร.กลับมาแจ้งว่าทางร้านเรียก 4,500 บาท ตนยังจ่ายไปให้ 6,000 บาท เพื่อความสบายใจของลูกค้าและคิดว่าเรื่องน่าจะจบด้วยดี เพราะแสดงความรับผิดชอบเต็มที่แล้ว มีหลักฐานการเซ็นรับมอบเงินให้กับลูกชายของลูกค้าด้วย ปรากฏว่าเรื่องยังไม่จบ เพราะถัดมาอีกวันก็โทร.มาแจ้งว่าได้ไปปรึกษาแพทย์ ต้องใช้เซรั่มปลูกผม ตอนแรกก็คิดว่าไม่แพงมาก ก็บอกไปว่าไม่เป็นไรจะช่วย แต่พอแจ้งกลับมาว่าต้องใช้เงินประมาณ 1 แสนบาท ทำเอาตนถึงกับช็อกไปเหมือนกัน ก็บอกไปว่าคงไม่ไหวแน่ๆ สุดท้ายก็มีการไปแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.นราทิพย์อย่างที่เป็นข่าว

ด้าน น.ส.นภัสสรณ์กล่าวชี้แจงว่า ได้บอกกับเจ้าของร้านไปว่าไม่ต้องนำเงิน 1 แสนบาทมาให้ตน แต่ให้นำเงินไปวางที่ร้านขายน้ำยาเซรั่มปลูกผมเลย

สำหรับเงิน 6,000 บาทที่ได้มานั้น ตนนำไปซื้อวิกผม 2 ทรงและค่าถอดผมอีก 900 บาทแล้ว เมื่อตกลงกันไม่ได้ก็คงต้องพึ่งอำนาจศาลตัดสินแทน วันเดียวกัน เวลา 15.30 น. นางกัญญารัตน์ กิตติวงศ์วัฒนา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทฮาร์ลีย์ สตรีท แฮร์ เซ็นเตอร์ จำกัด ได้ชี้แจงกับทาง บก.นสพ.ไทยรัฐว่า น.ส.นภัสสรณ์ อังกูรเมธีศักดิ์ ไม่เคยเป็นลูกค้าของบริษัทมาก่อน โดยก่อนที่จะไปแจ้งความเพื่อเอาผิดกับช่างทำผมคู่กรณีเพื่อเรียกร้องเงินค่าเสียหาย 1 แสนบาทเป็นค่าเซรั่มปลูกผมครั้งละ 25,000 บาท รวม 4 ครั้งนั้น น.ส.นภัสสรณ์เคยไปติดต่อปรึกษาเรื่องเส้นผมที่สาขาของบริษัท ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนาจริง แต่ทาง ผจก.ร้านได้ชี้แจงให้ทราบแล้วว่า รับดูแลเฉพาะเส้นผมที่มีปัญหาเรื่องรังแค ผมบาง หรือเส้นผมหลุดร่วง ไม่ใช่การต่อหรือปลูกเส้นผมให้ยาวขึ้นอย่างที่ น.ส.นภัสสรณ์ต้องการ
อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเส้นผมที่มีปัญหาก็ไม่ได้แพงอย่างที่ น.ส.นภัสสรณ์กล่าวอ้าง

"เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. วันเดียวกัน น.ส.นภัสสรณ์ก็ไปที่สาขาเซ็นทรัลบางนาอีก ทาง ผจก.ร้านก็ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาของ น.ส.นภัสสรณ์ได้ จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบเพราะหลังมีข่าวออกไป มีลูกค้าโทรศัพท์มาสอบถามเรื่องค่าดูแลรักษาปัญหาเส้นผมที่แพงกว่าปกติ ซึ่งทางบริษัทได้ชี้แจงให้ลูกค้าทราบข้อเท็จจริงแล้ว และเรียนย้ำอีกครั้งว่า น.ส.นภัสสรณ์ไม่เคยมาใช้บริการของบริษัทอย่างที่อ้างแต่อย่างใดทั้งสิ้น" น.ส.กัญญารัตน์สรุป

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์