บริษัทปรับตัวรับมือ...ม็อบปะทะจนท.รัฐ

 

คมชัดลึก : สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ดูท่าจะไม่จบลงง่ายๆ และคงไม่จบลงด้วยฉากอันสวยหรูอย่างที่ใครวาดฝันไว้ กลุ่มคนไม่หวังดีที่ปะปนอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมตระเตรียมสะสมอาวุธเอาไว้ใช้รับมือเจ้าหน้าที่รัฐ ในขณะที่การละเมิดกฎหมายหลายบทต่อเนื่องกัน จุดชนวนให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม แล้วบรรดาธุรกิจห้างร้านละแวกสี่แยกราชประสงค์ได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไรกันบ้าง ?!!


ตั้งแต่วันแรกที่ผู้ชุมนุมมาอยู่ที่แยกราชประสงค์ หัวหน้าสำนักงานในเมืองไทย ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นได้แจ้งเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ที่โตเกียว เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยเกรงว่าสถานการณ์การชุมนุมจะส่งผลกระทบต่อพนักงานจนเกิดอันตรายขึ้น จึงเสนอเรื่องขอย้ายสำนักงานชั่วคราวออกไปให้ไกลจากรัศมีการปะทะระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับเจ้าหน้าที่รัฐ หากมีการใช้กำลังเข้ายึดพื้นที่คืนเหมือนที่เกิดขึ้นที่สี่แยกคอกวัว


อย่างไรก็ดี ถึงตอนนี้บริษัทของหทัยชนกก็ยังหาสำนักงานชั่วคราวแห่งใหม่ไม่ได้ หัวหน้าชาวญี่ปุ่นเลยบอกให้ทุกคนติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด

หากทราบข่าวการใช้กำลังก็ไม่ต้องเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ ให้ทำงานอยู่กับบ้านแทน แต่หากมีการใช้กำลังกะทันหันให้พนักงานทุกคนปิดประตูสำนักงานให้แน่นหนา แล้วหลบเข้าไปตึกหลังด้านในสุด เพื่อความปลอดภัย ส่วนข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ เช่น เอกสารบัญชีต่างๆ หรือข้าวของมีค่าทุกคนได้เตรียมเก็บเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เผื่อมีเหตุการณ์ฉุกละหุกจะได้หยิบฉวยออกไปได้ทันท่วงที สำหรับทรัพย์สินอื่นๆ บริษัทได้ทำประกันเอาไว้แล้ว


หทัยชนกบอกด้วยว่า พนักงานที่ตึกมีความพร้อมรับมือหากเกิดเหตุไม่คาดฝันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยหลีกเลี่ยงขับถยนต์ส่วนตัวมาทำงาน หากเกิดการใช้กำลังรถอาจจะเสียหายได้


"ตอนนี้คนที่ย่านราชประสงค์คงคิดเหมือนกันหมดว่า ทำไมกลุ่มคนเสื้อแดงถึงมาจับพวกเราเป็นตัวประกัน ทุกวันนี้ไม่อยากมองหน้าคนกลุ่มนี้ อึดอัด วันก่อนไป รพ.จุฬาฯ เห็นรถคนป่วยจะขอพาคนป่วยเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล พวกเขาไม่ให้เข้าก็ไม่รู้มีสิทธิอะไร พอเขาต่อว่าต่อขานก็รุมทำร้ายเขา" หทัยชนกระบายความรู้สึก


ด้าน "กรรณิการ์" พนักงานธนาคารแห่งหนึ่งย่านราชประสงค์ บอกว่า ขณะนี้ธนาคารได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการให้พนักงานทุกคนแต่งกายในชุดทะมัดทะแมง ไม่ต้องสวมยูนิฟอร์มเหมือนทุกวัน ใครจะแต่งอะไรก็ได้ ขอให้เป็นกางเกงและรองเท้าไม่สูงเกินไปนัก หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายจะได้ไม่ลำบาก


"ตอนนี้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์จะไม่เก็บเงินไว้ในลิ้นชักจำนวนมากๆ แต่จะเก็บเข้าเซฟแทน เหลือแค่พอสำรองจ่ายให้แก่ลูกค้าที่ต้องการถอนจำนวนไม่มาก ขณะเดียวกันก็เพิ่ม รปภ.มากขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน" กรรณิการ์กล่าว


"อรวรรณ" วัย 32 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับเวทีเสื้อแดงบอกว่า
โรงแรมได้เตรียมรับสถานการณ์ความรุนแรงไว้แล้วหลายอย่างด้วยกัน อันดับแรกคือใหลูกค้าไปพักยังโรงแรมในเครือหรือพันธมิตรทางธุรกิจแล้ว ส่วนพนักงานโรงแรมผู้บริหารก็ปล่อยให้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ มีการเพิ่มจำนวน รปภ.มากขึ้น และเตรียมรั้วเหล็กป้องกันการทะลักเข้ามาในโรงแรมหากมีการปะทะกัน 


"ทุกวันนี้ฝ่ายขายของโรงแรมก็บอกไม่ต้องเข้าออฟฟิศ เพราะเดินทางลำบาก ให้เข้ากรณีจำเป็นจริงๆ ถ้าเรื่องที่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ก็ให้ติดต่อทางโทรศัพท์ อยากให้เรื่องนี้จบลงเร็วๆ อย่างที่รู้กันว่าเงินเดือนพนักงานโรงแรมน้อย เราอยู่ได้เพราะเซอร์วิสชาร์จหรือทิปจากแขกที่เข้าพัก เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า พนักงานที่มีภาระค่าใช้จ่ายปลายเดือนจะเป็นอย่างไร" อรวรรณ แสดงความกลัดกลุ้ม


ขณะที่ "จุฑารัตน์ งามทวีสุข" วัย 25 ปี พนักงานบริษัททัวร์ย่านสยามฯ อีกคน บอกว่า ตอนนี้บริษัทติดตามข่าวสารการชุมนุมอย่างใกล้ชิด หากมีการประกาศสลายการชุมนุมก็จะให้พนักงานหยุดงานหรือกลับบ้านทันที เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการปะทะกัน
 
"ส่วนอื่นๆ บริษัทยังไม่ได้เตรียมความพร้อมอะไรมากนัก แต่ก็มีพี่ๆ ในออฟฟิศพูดกันว่าถ้าเกิดการปะทะกันจริงก็ให้ออกไปรวมตัวที่ลานจอดรถแล้วขับรถออกไปพร้อมๆ กัน แต่ภาวนาอย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเลย เพราะคนไทยด้วยกันทั้งนั้น" จุฑารัตน์กล่าวสรุป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์