โดนผัว-เพื่อนฉก แม่เฒ่าดวงซวย ร้องขอสื่อฯช่วย
บุญมีแต่กรรมบัง อ้างถูกรางวัลที่ 1 สองงวด กวาดเงินไปกว่า 11 ล้านบาท แต่ไม่ได้เงินแม้แต่แดงเดียว
แม่เฒ่าเมืองมะขามหวานชี้ถูกเพื่อนกับสามีตัวเองขโมยไปขึ้นรางวัล ตร.รับแจ้งไม่กล้าฟันธงจริงหรือกุเรื่อง เปรยให้หาหลักฐาน-พยานมายืนยัน แต่เจ้าตัวกลับบอกไม่มี “กองสลากฯ” แนะให้รีบมาแจ้งที่สนง.ด่วน รับประกันตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกงวด ย้ำถูกจริงถูกปลอมรู้แน่ เผยมีกลุ่มมิจฉาชีพอ้างวิธีนี้หากินเยอะ เซ็งเจอพ่อค้าคนกลางหัวใสฟันกำไร 2 เด้ง ทั้งที่ราคาส่งลดต่ำจากการชุมนุมเสื้อแดง คนไม่เข้าไปซื้อสลากฯ แต่ราคาปลีกยังขายเท่าเดิม ลั่นเจอโดนยึดโควตาคืนทันที
แม่เฒ่าดวงเฮงแต่กรรมบังตา ถูกรางวัลที่ 1 สองครั้งในชีวิต กลับไม่เคยได้ใช้เงิน ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 เม.ย.
นางฉลวย ทองสุขดี อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 1 ต.บึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง เข้าร้องเรียนกับทางเดลินิวส์เป็นสื่อกลางช่วยให้ความเป็นธรรม กรณีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 ก.พ. 53 แต่ถูกขโมยลอตเตอรี่ไป โดยนางฉลวยกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออ้างว่า ก่อนเกิดเหตุตนซื้อลอตเตอรี่การกุศลหมายเลข 186312 และ 186313 โดยเขียนชื่อสลักหลังไว้ที่ลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบ และเก็บไว้ที่ในลิ้นชักหน้ารถยนต์ของตน
คนบุญมีแต่กรรมบัง อ้างต่อว่าต่อมาวันหวยออก ตนชักชวนนาง ส (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ซึ่งรู้จักกันนั่งรถตระเวนแจกการ์ดงานบวชหลานชาย
หลังจากนั้นบอกให้นาง ส ซื้อใบตรวจรางวัลมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะยังวุ่นอยู่กับการแจกการ์ด พอกลับถึงบ้านพบว่าถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียง ได้เงินมูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท ตนจึงรีบไปหาลอตเตอรี่ที่เก็บไว้ พบว่าถูกขโมยไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความให้ติดตามตัวนาง ส มาสอบสวน โดยเมื่อตำรวจตามไปที่บ้านนาง ส ปรากฏว่าไม่พบตัว ทราบว่านาง ส เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปแล้ว ตนจึงรีบเดินทางไปร้องเรียนยังกองสลากฯ เพื่อให้ระงับการจ่ายรางวัล แต่จนถึงขณะนี้ คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
“ทุกวันนี้ป้ากินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยช่วงปี 50 ป้าเคยถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 ต.ค. หมายเลข 430667 ได้เงินรางวัล 4 ล้านบาท แต่สามีก็ขโมยลอตเตอรี่ก่อนนำไปขึ้นเงิน เมื่อได้มาก็นำเงินไปให้ ลูกติดของตัวเอง ต่อมาสามีเสียชีวิตไป ป้าก็ยังไม่ได้เงินมาใช้เลย มาคราวนี้ก็ถูกรางวัลที่ 1 อีก เผลอ ๆ อาจถูกแจ๊กพอตด้วย แต่ก็โชคร้ายมาถูกขโมยไปอีก ป้านอนร้องไห้ทุกวัน ไปร้องเรียนมาแล้วหลายที่ ทั้งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือที่รัฐสภา แต่ก็ดูไร้ความหวัง จึงอยากให้เดลินิวส์ช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง” นางฉลวย กล่าวทั้งน้ำตา
วืดได้เงินถูกที่1สองงวด
ด้านนายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ว่าจะมีใครมาขึ้นรางวัลไปแล้วหรือไม่ก็ตาม
หากเจ้าตัวยืนยันว่ามีการเขียนชื่อสลักหลังสลากกินแบ่งรัฐบาลไว้จริง สามารถตรวจสอบ และตามหาผู้ที่มารับรางวัลได้แน่นอน เบื้องต้นให้เจ้าของสลากที่แท้จริงไปแจ้งความไว้ก่อน จากนั้นให้นำเอกสารมาแจ้งที่สำนักงานฯ ซึ่งสำนักงานฯจะตรวจสอบว่า เลขที่ถูกรางวัลดังกล่าว ผู้ที่ขึ้นเงินรางวัลไปแล้วนั้นเป็นใคร และจะต้องมีการพิสูจน์กันต่อไปว่ามีสิทธิที่จะได้รับรางวัลจริงหรือไม่
ผอ.กองสลาก กล่าวต่อว่า ประเด็นของเรื่องไม่ได้อยู่ที่มีผู้มาขึ้นเงินรางวัลไปแล้วหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าผู้ที่มาขึ้นรางวัลนั้นเป็นใคร
เพราะโดยขั้นตอนการขึ้นเงินรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะต้องนำสลากฯ มาให้สำนักงานฯ ตรวจสอบก่อน พร้อมทั้งต้องลงชื่อสลักหลัง ทั้งชื่อ นามสกุล ที่อยู่ที่ถูกต้องตามบัตรประจำตัวประชาชนอย่างละเอียด จากนั้นกองสลาก จึงจะจ่ายเงินรางวัลให้ไป และไม่สามารถที่จะประวิงเวลาการจ่ายรางวัลได้
“ถ้าเจ้าของสลากตัวจริงยืนยันว่า ลงชื่อสลักหลังไว้แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ตรวจสอบหลักฐานได้ กองสลากจะจ่ายเงินรางวัลให้เฉพาะผู้ที่เขียนสลักหลังสลากฯก่อนเท่านั้น กรณีนี้หากถูกขโมยก็จะมีการฟ้องร้องกันต่อไป หากผู้เสียหายมาติดต่อ ก็จะรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้อยากเตือนประชาชนว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้วิธีในลักษณะนี้มาแอบอ้างขอรับเงินรางวัลอยู่เป็นระยะ ๆ โดยอ้างว่าถูกรางวัล แต่สลากฯ หายหรือถูกขโมยไป พอตรวจสอบกลับพบว่าเป็นพวกแอบอ้างมิจฉาชีพจำนวนมาก”
นายวันชัย กล่าวถึงสถานการณ์ราคา สลากฯว่า ขณะนี้ราคาขายส่งสลากฯ ปรับลดลงอย่างมาก
เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง ที่ส่งผลให้ผู้ค้ารายย่อยไม่เดินทางเข้ามาซื้อสลากฯ ประกอบกับอากาศที่ร้อนมาก และนับเป็นวัฏจักรของสลากฯอยู่แล้ว ที่จะราคาตกในเดือน เม.ย. จากเทศกาลสงกรานต์ ที่สลากฯไม่ชอบน้ำ โดยขณะนี้ ราคาขายส่งปรับลดลงไปต่ำกว่าใบละ 80 บาทแล้ว หรือเล่มละกว่า 7,500 บาทเท่านั้น แต่ในส่วนการขายปลีกนั้น ผู้ค้ารายย่อย พ่อค้าคนกลางกลับฉวยโอกาสขายในราคาสูงเท่าเดิมหรือเฉลี่ยที่ 90-110 บาท จึงขอแจ้งเตือน ผู้ค้ารายย่อยให้ขายในราคาเดิม ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตามจุดต่าง ๆ แล้ว หากพบว่าขายเกินราคาจะยึดโควตาคืนทันที
ด้าน ร.ต.ท.โชติ ไกรสนิท ร้อยเวร สภ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า นางฉลวยเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาจริง
ซึ่งตนบอกให้ผู้เสียหายนำหลักฐาน หรือพยานมายืนยันว่ามีการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลใบที่ถูกรางวัลจริง แต่ผู้เสียหายกลับหาไม่ได้ อ้างว่าซื้อกับพ่อค้าขาจร แต่เซ็นชื่อกำกับไว้ด้านหลัง ทั้งนี้ตรวจสอบกับกองสลากทราบว่ามีผู้ถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 ก.พ.จริง แต่ไม่ได้มีการลงชื่อ หรือทำตำหนิกำกับไว้แต่อย่างใด ทั้งนี้เมื่อช่วงปี 50 ผู้เสียหายก็ได้เข้าแจ้งความลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วด้วย.