น้ำปลา-น้ำอัดลม-ยางรถยนต์รอคิว ชาวบ้านลุ้นวัดใจพาณิชย์ปล่อยขึ้น
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มีผู้ประกอบการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค 20 ราย
แจ้งขอปรับราคาสินค้าและตั้งราคาสินค้าใหม่เข้ามายังกรมการค้าภายในอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบันรวมกว่า 393 รายการ แบ่งเป็นผู้ประกอบการ 8 ราย จาก 5 ชนิดสินค้า ได้แก่ น้ำอัดลม แบตเตอรี่รถยนต์ น้ำปลา ยางรถยนต์ และเหล็กแผ่นไม่เป็นสนิมรีดเย็น รวม 302 รายการ ที่ขอปรับขึ้นราคา และมีผู้ประกอบการ 12 ราย จากสินค้า 6 ชนิด ได้แก่ แบตเตอรี่รถยนต์ ยาสระผม ผลิตภัณฑ์นม ผงซักฟอก กาแฟผงสำเร็จรูป และยางรถยนต์ รวม 91 รายการ ที่ขอตั้งราคาใหม่
“ผู้ประกอบการที่ยื่นเรื่องขอปรับราคาและตั้งราคาใหม่เข้ามาตอนนี้ ส่วนใหญ่เคยยื่นขอมาแล้วตั้งแต่ปี 52 และไตรมาสแรกปีนี้ แต่ระหว่างนั้นกระทรวงพาณิชย์ โดยนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ มีนโยบายไม่ให้ขึ้นราคาสินค้า และขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการตรึงราคาจำหน่ายสินค้าจนถึงเดือน มี.ค. 53 เพื่อดูแลค่าครองชีพให้ผู้บริโภคไม่มีรายจ่ายสูงเกินไป ส่งผลให้ราคาสินค้ายังไม่ถูกพิจารณาให้ขึ้นราคาจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อมาตรการขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 53 ที่ผ่านมาจึงมีการยื่นเรื่องให้พิจารณาอีกครั้ง”
สินค้า 393 รายการจ่อปรับราคา
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อสิ้นสุดมาตรการ น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรม การค้าภายใน ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด
ผ่านนาย ยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อเสนอให้นางพรทิวา รมว.พาณิชย์ พิจารณาว่าจะมีนโยบายตรึงราคาสินค้าต่อไป หรือผ่อนคลายมาตรการตรึงราคาที่สิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. 53 พร้อมขอความเห็นชอบให้กรมการค้าภายในเป็นผู้พิจารณาการปรับราคาและตั้งราคาสินค้าด้วยตัวเอง
ทั้งนี้กรมการค้าภายในให้เหตุผลว่า มีผู้ประกอบการหลายรายได้ขอยื่นปรับราคาสินค้าเข้ามา
เพราะต้นทุนวัตถุดิบในตลาด โลกมีแนวโน้มสูงขึ้น เช่น ยางรถยนต์ สายไฟฟ้า และแบตเตอรี่รถยนต์ นอกจากนี้ ในการปรับราคาหรือตั้งราคา หากไม่มีคณะอนุกรรมการพิจารณาเป็นรายสินค้าก็จะขอใช้อำนาจในการพิจารณาอนุมัติให้เลย เพราะปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์มีคณะอนุกรรมการที่ดูแลเฉพาะสินค้าอยู่ 6 คณะเท่านั้น คือ เหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ยารักษาโรคแผนปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์นม ปุ๋ยเคมี น้ำมันพืช และอาหารสัตว์
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในได้เสนอให้นางพรทิวา อนุมัติการตั้งราคาสินค้าจำนวน 6 สินค้า ได้แก่ นมผง นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต ผงซักฟอก ยาสระผม นมสดพร้อมดื่ม และแบตเตอรี่รถยนต์ เนื่องจากเป็นสินค้ารายการใหม่ เพิ่งปรับปรุงรสชาติและผลิตออกมาจำหน่าย
ทั้งนี้ในส่วนของนมสดพร้อมดื่ม บริษัท ฟรีสแลนด์ ฟู้ดส์ โฟร์โมสต์ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งเป็นผู้นำตลาดมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 36% ได้เสนอขออนุมัติตั้งราคานมสดพร้อมดื่ม ยู.เอช.ที ตราโฟร์โมสต์คิดส์ และตราโฟร์โมสต์สคูล รสจืด หวานและช็อกโกแลต ขนาด 180 มล. ทุกรสชาติกล่องละ 12.50 บาท โดยให้เหตุผลที่ขอตั้งราคาใหม่ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่มวิตามินเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค โดยกรมการค้าภายในพิจารณาแล้วเห็นว่าควรจะให้ตั้งราคาได้กล่องละ 11.25 บาท
ส่วนแชมพูสระผม บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด
ได้ขอตั้งราคาจำหน่ายแชมพูสระผมตราโดฟ 3 สูตร ขนาด 80 ซีซี ราคาขวดละ 40 บาท และแชมพูสระผมตราซันซิล 7 สูตร 8 ขนาด ได้แก่ ขนาด 1,000 ซีซี ขวดละ 235 บาท ขนาด 700 ซีซี 208 บาท ขนาด 500 ซีซี 195 บาท ขนาด 375 ซีซี 128 บาท ขนาด 200 ซีซี 83 บาท ขนาด 180 ซีซี 77 บาท ขนาด 80 ซีซี 29 บาท และขนาด 7 ซีซี 3 บาท โดยผลการพิจารณาเห็นควรให้ตั้งราคาแชมพูสระผม ตราโดฟทั้ง 3 สูตรขวดละ 32 บาท และตราซันซิลตามที่บริษัทเสนอ ยกเว้นขนาด 200 ซีซี และ 180 ซีซี ที่เห็นควรตั้งราคาใหม่ที่ 75.50 บาท และ 72 บาท.