ชาวนาร้องถูกยึดที่นาเพราะรอกองทุนฟื้นฟู

"ยังไม่จัดการ ถูกขายทอดตลาด"


เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายประยูร ช่องสาร อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.7 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เข้าร้องเรียนข่าวสดว่า เป็นสมาชิกกลุ่มร่วมใจพัฒนาของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เพื่อรับการจัดการหนี้ตามพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. 2542 แต่จนถึงปัจจุบันกฟก.ยังไม่จัดการให้ ทำให้ที่ดินซึ่งจำนองไว้ถูกกรมบังคับคดีขายทอดตลาดไปแล้ว

โดยนายประยูรกล่าวว่า นำที่นาจำนวน 15 ไร่เศษจำนองไว้กับสหกรณ์การเกษตรแสวงหาจำกัด ตั้งแต่ปี 2539 เป็นเงิน 250,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี เพื่อนำเงินไปลงทุนด้านการเกษตร แต่ประสบปัญหาผลผลิตน้อยจึงไม่สามารถชำระเงินต้นได้ ชำระเพียงแต่ดอกเบี้ยและค่าปรับในการชำระล่าช้า กระทั่งปี 2547 นายชิดชัย เกษรแก้ว ประธานกลุ่มร่วมใจพัฒนา ชักชวนให้เข้าเป็นสมาชิก พร้อมให้หยุดชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่ติดค้างกับสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้กฟก.ดำเนินการซื้อหนี้สินที่มีอยู่ทั้งหมดดูแล โดยสามารถผ่อนชำระระยะยาว ดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 1 ต่อปี

"วอนสื่อช่วยจี้"


นายประยูรกล่าวว่า หลังจากเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มจึงหยุดชำระเงินทุกอย่างตามที่ประธานกลุ่มแจ้งไว้ พร้อมยื่นเอกสารทุกอย่างให้กลุ่มดำเนินการส่งเรื่องไปยังกฟก. และตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา หากกลุ่มเรียกประชุมจะเข้าร่วมทุกครั้ง โดยต้องเสียเบี้ยประชุมเป็นเงิน 25 บาทต่อครั้งที่เข้าร่วม เมื่อมีการรวมตัวประท้วงที่ไหนจะเดินทางไปด้วย ซึ่งต้องเสียค่ารถเองเป็นเงิน 200-250 บาทต่อครั้ง และเมื่อมีการติดต่อจากสหกรณ์ให้ไปชำระเงินที่ติดค้างไว้ ตนก็ไปปรึกษานายชิดชัย ประธานกลุ่มร่วมใจพัฒนา ซึ่งคำตอบที่ได้รับทุกครั้งคือให้ใจเย็นรอกฟก.มาซื้อหนี้ และไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น กระทั่งปลายปี 2548 มีประกาศจากเจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งว่าได้ยึดที่นาซึ่งจำนองไว้ขายทอดตลาดตามกฎหมายแล้ว

"ประธานกลุ่มยังคงบอกแต่ว่าให้ใจเย็นๆ กำลังดำเนินการให้อยู่ เมื่อไปปรึกษากฟก.เขตภาคกลาง หัวหน้าเขตจึงทำหนังสือถึงศาลให้พิจารณาระงับการขายทอดตลาด 2 ครั้ง แต่ศาลยกคำร้อง จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้กฟก.ในส่วนกลางช่วยเหลือ แต่ได้รับคำตอบว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน ให้กลับไปปรึกษากับประธานกลุ่ม ผมไม่รู้จะไปพึ่งใครอีกแล้วจึงเข้ามาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ให้ช่วยกระตุ้นกฟก.ให้รีบดำเนินการก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป เพราะผมทำตามที่ได้รับคำแนะนำจากประธานกลุ่มทุกอย่าง และหากไม่มีกฟก.มาให้ความหวัง ผมคงยังจ่ายดอกเบี้ยอยู่ทุกเดือนไม่ถูกยึดที่นาไปขายแบบนี้" นายประยูรกล่าว

"ต้องชำระหนี้จนกว่า กฟก.จะเข้ามาซื้อหนี้"


ส่วนนายชิดชัย เกษรแก้ว ประธานกลุ่มร่วมใจพัฒนา ประธานที่ปรึกษาเครือข่ายหนี้สินเกษตรกรชาวนาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจัดการหนี้เกษตรกร ในฐานะตัวแทนเกษตรกรภาคกลาง กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามแจ้งเรื่องไปยังกฟก.ตลอดเวลา แต่ที่ล่าช้าเนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของกฟก.มีปัญหาจากการรับคำสั่งของกรรมการกฟก. เป็นเรื่องของเส้นสายทางการเมือง แต่มีคำสั่งจากนายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้จัดการซื้อหนี้ของเกษตรกรในส่วนของสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศให้เสร็จสิ้นภายในเดือนพ.ย.นี้ โดยมีเกษตรกรที่เป็นหนี้สหกรณ์การเกษตรทั้งหมดกว่า 3,000 ราย พิจารณาแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการจำนวน 1,111 ราย และนายประยูรอยู่ในกลุ่มที่พร้อมดำเนินการ

นายมณฑล ศรีทองกุล รักษาการหัวหน้าสำนักงานกฟก.ภาคกลาง เขต 2 กล่าวว่าปัญหาการล่าช้าของการช่วยเหลือ เพราะว่าสหกรณ์การเกษตรแต่ละแห่งถือว่าเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย กระทรวงไม่สามารถสั่งการได้ ทำได้เพียงขอความร่วมมือในการขายหนี้ให้กฟก. ซึ่งสหกรณ์หลายแห่งยอม แต่บางแห่งไม่ยอมขายให้ ส่วนในกรณีที่แกนนำกลุ่มแจ้งต่อสมาชิกว่าไม่ต้องจ่ายหนี้ที่ติดอยู่ต่อสหกรณ์ที่กู้ยืมมานั้น เป็นการกระทำเพื่อผลักดันให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหา เพราะหน่วยงานของรัฐทำงานไม่ทันกับปัญหาที่เกิด แต่ตราบใดที่กฟก.ยังไม่ได้ตรวจสอบ และพิจารณารับรองหนี้ เกษตรกรจะต้องชำระหนี้นั้นๆ ตามปกติ

"ให้เกษตรกรซื้อคืนมาขายให้ กฟก."


นายธานินทร์ โต๊ะหมัดและ เจ้าหน้าที่วิชาการ สำนักช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่ากฟก.เริ่มเข้ามาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการเมื่อปีที่ผ่านมาตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งในส่วนของหนี้ของสหกรณ์การเกษตร ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการกฟก. เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา สรุปว่าให้ดำเนินการชะลอการฟ้องร้องต่อเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกฟก.

ในส่วนที่ถูกบังคับคดีไปแล้วให้สหกรณ์เจ้าของหนี้ติดต่อซื้อคืนจากผู้ซื้อ และนำมาขายต่อกฟก. ซึ่งดำเนินการไปบางส่วนแล้ว สำหรับกรณีเร่งด่วนของเกษตรกรที่ถูกบังคับคดีให้ติดต่อ สำนักพัฒนาระบบการบริหารและการจัดการสหกรณ์การเกษตร โทร. 0-2281-8100 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับสหกรณ์เจ้าหนี้เป็นกรณีพิเศษ


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์