ประชุมชุดย่อยชงสิทธิประโยชน์ปลอบขวัญตำรวจ 3 จว.ใต้ ให้รรท.ผบ.ตร.เห็นชอบ แล้วเสนอก.ตร.ออกกฎทันที ผกก.ปะนาเระจี้ ตร.เร่งบังคับใช้วันทวีคูณ ก่อน 18 เม.ย.ลั่นหากช้าเล็งฟ้องศาลปกครอง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประชุมการแก้ปัญหาการบริหารงานบุคคลของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ชุดย่อย
มี พล.ต.ท.สมโชค เจริญพร รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (รอง ผบช.สกพ.) เป็นประธาน เพื่อหารือเรื่องสิทธิประโยชน์ของตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 มีนาคม มีตัวแทนจากทุกกองบัญชาการ (บช.) ร่วมประชุมเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา ขณะที่มีตัวแทนตำรวจจาก ศชต. นำโดย พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบช.ศชต. พล.ต.ต.สันติ มะลิขาว ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม ศชต. พล.ต.ต.สายันห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ยะลา พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา ผู้กำกับการ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ด.ต.แชน วรงไพสิฐ ผู้บังคับหมู่งานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด บก.ภ.จว.นราธิวาส ร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สันติกล่าวว่า เป็นการประชุมชุดย่อยเพื่อหารือกันเรื่องสิทธิประโยชน์ของตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้
หลังจากที่ชุดใหญ่ที่มี พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ประชุมไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง ศชต.ได้เสนอสิทธิประโยชน์ด้านกำลังพลให้กับตำรวจใน ศชต.หลายประเด็น อาทิ การขอแก้ระเบียบการให้เงินเพิ่มสู้รบ (พสร.) ที่เดิมกำหนดว่า แต่ละคนมีสิทธิในเงินส่วนนี้ไม่เกิน 4 ครั้งเท่านั้น แต่เนื่องจากตำรวจในพื้นที่ ศชต.มีโอกาสเกิดเหตุปะทะ ลอบทำร้ายหลายครั้ง จึงขอเพิ่มสิทธิการรับเงิน พสร.ตามครั้งที่ประสบเหตุจริง
"นอกจากนี้ได้เสนอเรื่องหมุนเวียนกำลังพล โดยขอกำหนดว่าให้ตำรวจชั้นประทวนอยู่ในพื้นที่ 5 ปีจึงจะโยกย้ายออกนอกหน่วยได้ ระดับรองสารวัตร (รอง สว.) 4 ปี สว.-รอง ผบก. 3 ปี โดยทุกคนต้องผ่านการประเมินการทำงาน เอาผลงานมาแสดง ถึงจะย้ายได้ แต่หากทำผิดวินัยถูกกักยาม ลงทัณฑ์ ต้องเพิ่มจำนวนปีที่ต้องอยู่ในพื้นที่ ห้ามย้ายจนกว่าจะครบ ซึ่งต่อไปทุกคนจะรู้กำหนดว่าทำงานอยู่กี่ปีถึงจะหมุนเวียนได้" พล.ต.ต.สันติกล่าว และว่า เรื่องนี้ได้เสนอ ตร.ไปว่า ต่อไปทุก บช.ให้กันอัตราเกษียณของแต่ละปีเก็บไว้ให้คนจาก ศชต.หมุนออกไป และต้องเปลี่ยนคนใหม่เข้ามา โดยคนที่เข้ามานั้น ศชต.จะไม่รับไว้ทันที ต้องผ่านการทดลองงาน 6 เดือนก่อนถึงจะรับและแต่งตั้งย้อนหลัง ทั้งนี้เพื่อให้เกิดระบบหมุนเวียนกำลังพล เป็นขวัญกำลังใจให้ตำรวจในพื้นที่ ศชต.ที่ทุกวันนี้หลายคนมักถามผู้บังคับบัญชาว่าทำงานมานานเมื่อไหร่จะย้ายได้ โดยที่ผู้บังคับบัญชาไม่สามารถให้คำตอบได้ นอกจากนี้ยังทำให้ตำรวจ ศชต.มีกำลังพลใหม่ๆ เข้ามาที่มีศักยภาพมีคุณภาพตรงตามความต้องการ สอดรับการแก้ปัญหาในพื้นที่
ชงสิทธิประโยชน์ ปลอบขวัญตร.3จว.ใต้
พล.ต.ต.สันติกล่าวว่า สำหรับการนับวันทวีคูณเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น นั้น
ศชต.เสนอไปว่ายึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2550 โดยได้เสนอรายละเอียดต่างๆ ไป และมีข้อกำหนดว่าคนที่จะได้สิทธิต้องผ่านการประเมินผลงาน ต้องอยู่ในพื้นที่จริง ไม่ใช่คนที่เอาชื่อมาฝากเพื่อเดินทางลัดแล้วตัวไปอยู่ที่อื่น นอกจากนี้ ทราบว่าสำนักงานกำลังพลกำลังเสนอหลักเกณฑ์ แนวทางการเลื่อนตำรวจชั้นประทวนใน ศชต.ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสี่ยง มุ่งมั่น ให้ขึ้นเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรด้วย
"ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้จะเสนอให้คณะกรรมการชุดใหญ่ของ รรท.ผบ.ตร.พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามตำรวจ ศชต.เห็นว่า หาก ตร.เห็นชอบกับแนวทางสิทธิประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตั้งนั้น อยากให้ออกเป็นกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เสียเลย เพื่อให้เป็นแนวทาง ระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน" พล.ต.ต.สันติกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.นฤชากล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา มีตำรวจ ศชต.กลุ่มหนึ่งประมาณ 100 คน
ทำหนังสือร้องทุกข์ต่อ ก.ตร. เรื่องขอให้ ตร.ดำเนินการตามสิทธิตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2550 ซึ่งรวมถึงวันทวีคูณและสิทธิอื่นๆ ทั้งนี้ หากถึงวันที่ 18 เมษายนแล้ว ตร.ยังไม่ดำเนินการให้สิทธิตามระเบียบนี้ก็คุยกันว่าจะมีการยื่นฟ้องศาลปกครอง
วันเดียวกัน ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.สตม. แถลงข่าวต้อนรับ ส.ต.ท.โรจนินทร์ ภูวพงษ์พิทักษ์
ลูกชาย พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยโอนย้ายเข้ารับราชการในสังกัด สตม. ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝ่ายอำนวยการ สตม. จ.สงขลา มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดให้การต้อนรับและเข้าร่วมแสดงความยินดีอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกับมอบเงิน 167,650 บาทให้กับครอบครัวของ พล.ต.อ.สมเพียร
พล.ต.ท.วุฒิกล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ ส.ต.ท.โรจนินทร์ได้มาร่วมงานกับทาง สตม. ตนจะดูแลเหมือนกับเป็นลูกหลานของตัวเอง ให้เติบโตตามอุดมการณ์ที่ พล.ต.อ.สมเพียรทำเอาไว้
เชื่อว่าตระกูลภูวพงษ์พิทักษ์นี้จะสามารถสร้างชื่อให้กับประเทศได้อีกนาน ส่วนเงินที่ได้มอบให้นั้นเป็นเงินของเพื่อนตำรวจในสังกัด สตม.รวบรวมกันเพื่อให้กับนางพิมชนา ภูวพงษ์พิพัฒน์ ภรรยาของ พล.ต.อ.สมเพียร เพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ด้านนางพิมชนากล่าวว่า รู้สึกดีใจและอบอุ่นมากที่ลูกชายได้เข้ารับตำแหน่งในสังกัดนี้ และอยากขอฝากให้ตำรวจทุกคนช่วยดูแลลูกชายของตนเอาไว้ด้วย